WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

JSPทนงศกด มโนธรรมรกษาJSP เปิด 3 โครงการใหม่ มูลค่า 1.2 หมื่นลบ.Q4/58-Q1/59,ปีหน้ารุกแปดริ้ว

     นายทนงศักดิ์ มโนธรรมรักษา ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บมจ.เจ.เอส.พี. พร็อพเพอร์ตี้(JSP) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิด 3 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 1.2 หมื่นล้านบาท ในช่วงไตรมาส 4/58 ถึงไตรมาส 1/59 ช่วยหนุนยอดขายรอโอน(Backlog) รองรับการรับรู้รายได้ในช่วงปี 59-62 ขณะเดียวกันยังใช้งบ 1.6 พันล้านบาทในปีนี้ เพื่อซื้อที่ดิน 4 แปลงย่านแปดริ้ว จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อพัฒนาโครงการพาณิชย์แนวราบ มูลค่า 2 พันล้านบาท พร้อมเตรียมเปิดโครงการในปี 59

     สำหรับ โครงการที่จะเปิดใหม่ 3 โครงการในช่วงไตรมาส 4/58 ถึงไตรมาส 1/59 ประกอบด้วย โครงการแพรกษา บนเนื้อที่ 218 ไร่ มูลค่าโครงการ 4 พันล้านบาท จะพัฒนาโครงการเป็นอาคารพาณิชย์ ,ทาวน์เฮ้าส์, บ้านแฝด ,คอนโดมิเนียม และตลาด นอกจากนี้กำลังเจรจากับโรงพยาบาลขนาดใหญ่ เพื่อให้เข้ามาอยู่ในโครงการ โดยจะแบ่งพื้นที่ให้ 10 ไร่ด้วย โดยโครงการนี้มีจุดเด่นอยู่ใกล้นิคมอุตสาหกรรมบางปู และการคมนาคมสะดวกเพราะจะมีการขยายถนนแพรกษาเป็น 6 เลน และอนาคตจะมีรถโมโนเรล แล่นผ่านไปยังสนามบินสุวรรณภูมิด้วย โดยโครงการจะเปิดตัวในไตรมาส 4/58

   โครงการรังสิต คลอง 1 บนเนื้อที่ 140 ไร่ มูลค่าโครงการ 4 พันล้านบาท จะพัฒนาโครงการเป็นอาคารพาณิชย์ และตลาด โดยจะเปิดเป็นตลาดค้าปลีกค้าส่ง สำเพ็ง-รังสิต โดยจุดเด่นโครงการจะอยู่ใกล้กับโครงการคอนโดมิเนียมของบมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) โดยโครงการจะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 4/58  ซึ่งทั้งสองโครงการนี้จะรับรู้รายได้เข้ามาในช่วงปี 59-61

   ส่วนที่เหลืออีก 1 โครงการ คือ โครงการบางบัวทอง บนเนื้อที่ 90 กว่าไร่ มูลค่าโครงการ 4 พันล้านบาท คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงไตรมาส 1/59 โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นตลาดเก่า และอยู่ใกล้กับวัดบรมราชากาญจนาภิเษกอนุสรณ์ (วัดเล่ง เน่ยยี่ 2)  ซึ่งคาดว่าจะพัฒนาโครงการเป็นตลาดน้ำ 100 ปีบางบังวทอง ซึ่งจะมีทั้งอาคารพาณิชย์, ทาวน์เฮ้าส์ และคอนโดมิเนียม โดยจะเริ่มรับรู้รายได้เข้ามาในปี 60-62

    นายทนงศักดิ์ กล่าวอีกว่า ปีนี้บริษัทยังได้เข้าไปซื้อที่ดินย่านแปดริ้วจำนวน 4 แปลง รวม 75 ไร่ มูลค่า 1.6 พันล้านบาท ซึ่งจะพัฒนาเป็นอาคารพาณิชย์และทาวน์เฮ้าส์ รวมทั้งจะพัฒนาเป็นศูนย์กลางตลาด-อาหาร มูลค่า 2 พันล้านบาท ที่พร้อมจะเปิดโครงการในปี 59

   ด้านนายสิทธิพร รัตนาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน ของ JSP คาดว่ารายได้ในไตรมาส 2/58 จะเติบโต 150% จากไตรมาสแรก ที่มีรายได้ประมาณ 800 ล้านบาท ขณะที่รายได้ในแต่ละไตรมาสของไตรมาส 3 และ 4 ปีนี้จะมีรายได้ใกล้เคียงกับไตรมาส 2 ซึ่งเป็นผลจากการ

    รับรู้จากการโอนกรรมสิทธิ์จากโครงการสำเพ็ง 2  เฟสที  3 และ 4 และโอนโครงการทิวลิป สแควร์ ในส่วนของอาคารพาณิชย์ ขณะที่ในไตรมาส 4 จะมีการโอนโครงการทิวลิป สแควร์ ทั้งส่วนอาคารพาณิชย์และคอนโดมิเนียม เข้ามาเพิ่มด้วย

    โดยการโอนกรรมสิทธิ์ที่เข้ามาในแต่ละไตรมาสจะช่วยหนุนให้รายได้ทั้งปีนี้ยังเป็นไปตามเป้าหมายที่ 4 พันล้านบาท เติบโตกว่า 50% จาก 2.6 พันล้านบาทในปีก่อน ขณะที่ความคืบหน้าล่าสุดของโครงการสำเพ็ง 2 นั้น จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มิ.ย. ซึ่งปัจจุบันการขายในเฟสที่ 1 และ 2 เต็มหมดแล้ว

    นายสิทธิพร กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะมียอดขายรอโอนที่จะไปรับรู้เป็นรายได้ในปี 59 ที่ระดับ 2.9 พันล้านบาท ซึ่งจะมาจากโครงการเดอะ ไมอามี่ บางปู ซึ่งมีมูลค่าโครงการ 5.8 พันล้านบาท โดยปัจจุบันมียอดจอง 40% และโครงการสำเพ็ง 2 ส่วนคอนโดมิเนียม ที่ปัจจุบันขายได้แล้ว 20%  นอกจากนี้ยังจะรับรู้รายได้จากโครงการทิวลิป สแควร์ จ.สมุทรสาคร ซึ่งมีมูลค่าโครงการ 1.7 พันล้านบาทเข้ามาเพิ่มเติมด้วย ทำให้คาดว่ารายได้ในปี 59 จะเติบโต 20% จากปีนี้

    สำหรับ อัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 50% จาก 34.3% ในปีก่อน แต่ในปีหน้าคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะลดลงมาที่ราว 40%

เพราะมีการรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมเข้ามามากถึงราว 70% ของรายได้ โดยอัตรากำไรขั้นต้นของโครงการคอนโดมิเนียม จะอยู่ที่ระดับ 30-33% ต่ำกว่าอัตรากำไรขั้นต้นของโครงการอาคารพาณิชย์ ซึ่งอยู่ที่ระดับ 40-50%

    "บริษัทได้เปรียบเรื่องของรูปแบบการพัฒนาอสังหาฯ เพราะพัฒนาบนพื้นที่ขนาดใหญ่ทำให้ต้นทุนโครงการมีระดับต่ำกว่าโครงการของคู่แข่ง ปี 58 เราโอนไปแล้ว 808 ล้านบาทในไตรมาส 1 และมี backlog รอโอนอยู่ 3,534 ล้านบาท พร้อมโอนในปีนี้ และปี 59 ก็มี backlog รออยู่ 2,900 ล้านบาท ทำให้หุ้นของเราเป็นที่น่าสนใจ และทำให้นักวิเคราะห์หันมาวิเคราะห์ว่าหุ้น JSP น่าสนใจ"นายสิทธิพร กล่าว

   อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!