WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SUPERจอมทรพย โลจายะSUPER ตั้งเป้าภายใน 3 ปีขายไฟฟ้า 2,000 MW ปลายเดือนมิ.ย.เริ่ม COD ล็อตแรกของปีนี้ ดันรายได้ครึ่งปีหลังโดดเด่น

    บมจ.ซุปเปอร์บล๊อก (SUPER) ประกาศลั่นภายใน 3 ปี COD แตะ 2,000 เมกะวัตต์ เดินหน้าลงทุนพลังงานแดด-ลม-ชีวมวล โชว์แผนปี”58 ซุ่มเก็บ PPA 600 เมกะวัตต์ปปลายปีจ่อ COD 500 เมกะวัตต์ มั่นใจแนวโน้มรายได้ในช่วงครึ่งปีหลังเติบโตโดดเด่น ปี”59 โตอีกเท่าตัวเป็น 1,000 เมกะวัตต์ พร้อมผงาด! ในปี”60 โตก้าวกระโดดเป็น 2,000 เมกะวัตต์ บุกตลาดทั้งในและต่างประเทศ

    นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ซุปเปอร์บล๊อก จำกัด (มหาชน) (SUPER)  เปิดเผยว่า บริษัทมีความมั่นใจว่าปี 2558 จะสามารถจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) จากพลังงานแสงอาทิตย์ได้ตามแผน 500 เมกะวัตต์ เพราะช่วงเกือบครึ่งปีที่ผ่านมาสามารถเดินตามแผนที่วางไว้ได้โดยไม่มีปัญหา โดยในส่วนของการยื่นขอสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ล่าสุดได้รับแล้วได้รับ 61.6 เมกะวัตต์ รวมกับของเดิม 13.51 เมกะวัตต์ ทำให้มี PPA  75.11 เมกะวัตต์ ส่วนที่เหลือจากการยื่นขอเฟสแรกจะทยอยได้รับในเร็วๆนี้ และในปี 2559 ก็จะมีการ COD จากพลังงานลม และการลงทุนต่างประเทศ ส่วนในระยะ 3 ปี คาดว่าจะสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ 2,000 เมกะวัตต์  โดยไฟฟ้าจะมาจากพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลมและพลังงานชีวมวล

     “การตั้งเป้าหมาย COD ปีนี้ไว้ที่ 500 เมกะวัตต์นั้น เรามั่นใจว่าจะทำได้ตามเป้าหมายเพราะขณะนี้มี PPA ที่ค้างท่ออยู่ ซึ่งจะทำให้ผลการดำเนินงานครึ่งหลังปี 2558 เติบโตได้อย่างก้าวกระโดดและมีความโดดเด่นมาก” นายจอมทรัพย์กล่าว

   สำหรับ แผนการดำเนินงานในช่วง 3 ปีข้างหน้า (2558-2560) วางเป้าหมายเอาไว้ว่าจะสามารถจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ 2,000 เมกะวัตต์ โดยไฟฟ้าส่วนใหญ่จะมาจากโซลาร์ฟาร์ม  ซึ่งจะมาจากทั้งการร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังมาจากพลังงานลมและพลังงานชีวมวล (ขยะ) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาและบางส่วนได้ลงมือก่อสร้างไปแล้ว

   ในด้านการจัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อขยายธุรกิจนั้น บริษัทได้เตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว เพราะธุรกิจด้านพลังงานทดแทนนี้สามารถขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้มากถึง 70% ส่วนที่เหลือ 30% มาจากเงินทุนของบริษัท  นอกจากนี้ SUPER  จะได้รับจากการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิ SUPER-W1 ที่จะมีการใช้สิทธิในเดือน ก.ค.นี้  SUPER-W2 ที่จะมีการใช้สิทธิในเดือน พ.ย.นี้ รวมถึง SUPER-W3 ที่จะมีการใช้สิทธิ์ในช่วงต้นปี 2559 เมื่อรวมการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิ์ทั้ง 3 ครั้ง จะทำให้บริษัทได้รับเงินถึง 14,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังจะมีการเสนอขายหุ้นแบบเฉพาะเจาะจง (PP) จำนวน 2,000 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.50 บาท ซึ่งจะทำให้ได้รับเงินเพิ่มเข้ามาอีกประมาณ 5,000 ล้านบาท จึงทำให้มั่นใจว่า บริษัทฯ มีเงินลงทุนมากพอสำหรับการขยายธุรกิจดังกล่าว

ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ : IR network  

คุณภาติยา ภิรมณณ์กุล (ตี้)                     Mobile  089-689-4900    e-mail : bhatiya@irnetwork.co.th

คุณณัฐสินี ระเบียบนาวีนุรักษ์ (เก๋)            Mobile  080-999-8028    e-mail : natsinee@irnetwork.co.th

SUPER ตั้งเป้าภายใน 3 ปีขายไฟฟ้า 2,000 MW ปลายเดือนมิ.ย.นี้เริ่ม COD ล็อตแรก ดันรายได้ครึ่งปีหลังโดดเด่น

    บมจ.ซุปเปอร์บล๊อก (SUPER)  ประกาศลั่นภายใน 3 ปี COD แตะ 2,000 เมกะวัตต์ เดินหน้าลงทุนพลังงานแดด-ลม-ชีวมวล โชว์แผนปี”58 ซุ่มเก็บ PPA 600 เมกะวัตต์ปปลายปีจ่อ COD 500 เมกะวัตต์ มั่นใจแนวโน้มรายได้ในช่วงครึ่งปีหลังเติบโตโดดเด่น ปี”59 โตอีกเท่าตัวเป็น 1,000 เมกะวัตต์ พร้อมผงาด! ในปี”60 โตก้าวกระโดดเป็น 2,000 เมกะวัตต์ บุกตลาดทั้งในและต่างประเทศ

   นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ซุปเปอร์บล๊อก จำกัด (มหาชน) (SUPER) เปิดเผยว่า บริษัทมีความมั่นใจว่าปี 2558 จะสามารถจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) จากพลังงานแสงอาทิตย์ได้ตามแผน 500 เมกะวัตต์ เพราะช่วงเกือบครึ่งปีที่ผ่านมาสามารถเดินตามแผนที่วางไว้ได้โดยไม่มีปัญหา โดยในส่วนของการยื่นขอสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ล่าสุดได้รับแล้วได้รับ 61.6 เมกะวัตต์ รวมกับของเดิม 13.51 เมกะวัตต์ ทำให้มี PPA  75.11 เมกะวัตต์ ส่วนที่เหลือจากการยื่นขอเฟสแรกจะทยอยได้รับในเร็วๆนี้ และในปี 2559 ก็จะมีการ COD จากพลังงานลม และการลงทุนต่างประเทศ ส่วนในระยะ 3 ปี คาดว่าจะสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ 2,000 เมกะวัตต์  โดยไฟฟ้าจะมาจากพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลมและพลังงานชีวมวล

   “การตั้งเป้าหมาย COD ปีนี้ไว้ที่ 500 เมกะวัตต์นั้น เรามั่นใจว่าจะทำได้ตามเป้าหมายเพราะขณะนี้มี PPA ที่ค้างท่ออยู่ ซึ่งจะทำให้ผลการดำเนินงานครึ่งหลังปี 2558 เติบโตได้อย่างก้าวกระโดดและมีความโดดเด่นมาก” นายจอมทรัพย์กล่าว

   สำหรับ แผนการดำเนินงานในช่วง 3 ปีข้างหน้า (2558-2560) วางเป้าหมายเอาไว้ว่าจะสามารถจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ 2,000 เมกะวัตต์  โดยไฟฟ้าส่วนใหญ่จะมาจากโซลาร์ฟาร์ม  ซึ่งจะมาจากทั้งการร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังมาจากพลังงานลมและพลังงานชีวมวล (ขยะ) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาและบางส่วนได้ลงมือก่อสร้างไปแล้ว

     ในด้านการจัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อขยายธุรกิจนั้น บริษัทได้เตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว เพราะธุรกิจด้านพลังงานทดแทนนี้สามารถขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้มากถึง 70% ส่วนที่เหลือ 30% มาจากเงินทุนของบริษัท  นอกจากนี้ SUPER  จะได้รับจากการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิ SUPER-W1 ที่จะมีการใช้สิทธิในเดือน ก.ค.นี้  SUPER-W2 ที่จะมีการใช้สิทธิในเดือน พ.ย.นี้ รวมถึง SUPER-W3 ที่จะมีการใช้สิทธิ์ในช่วงต้นปี 2559 เมื่อรวมการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิ์ทั้ง 3 ครั้ง จะทำให้บริษัทได้รับเงินถึง 14,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังจะมีการเสนอขายหุ้นแบบเฉพาะเจาะจง (PP) จำนวน 2,000 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.50 บาท ซึ่งจะทำให้ได้รับเงินเพิ่มเข้ามาอีกประมาณ 5,000 ล้านบาท จึงทำให้มั่นใจว่า บริษัทฯ มีเงินลงทุนมากพอสำหรับการขยายธุรกิจดังกล่าว

SUPER เดินหน้าลุยโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนใน-ตปท.หวังพลิกกำไร-ล้างขาดทุนสะสม

    นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ บมจ.ซุปเปอร์บล๊อก(SUPER)คาดผลการดำเนินงานในครึ่งหลังปีนี้จะเติบโตได้อย่างโดดเด่น จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่คาดว่าจะเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์(COD)ได้ตามแผน 500 เมกะวัตต์(MW)ช่วงปลายปีนี้ หลังจากในช่วงครึ่งปีแรกสามารถเดินเครื่องผลิตได้ตามแผน และยังยื่นขอสัญญาซื้อขายไฟฟ้า(PPA) เพิ่มเติม โดยล่าสุดได้รับ PPA แล้ว 61.6 เมกะวัตต์ รวมกับของเดิมที่มีอยู่ทำให้มี PPA รวมแล้วทั้งสิ้น 75.11 เมกะวัตต์ และคาดว่าส่วนที่เหลือจะได้รับอนุมัติ PPA ในเร็วๆนี้

    นอกจากนี้ ในปี 59 คาดว่ารายได้จะเติบโตได้เท่าตัวจากปีนี้ หลังจะมีโรงไฟฟ้าที่ COD แล้วเพิ่มเป็น 1 พันเมกะวัตต์ ซึ่งจะมาจากการผลิตไฟฟ้าพลังงานลม และการลงทุนในต่างประเทศ ส่วนในระยะ 3 ปีข้างหน้าคาดว่าจะสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้เป็น 2,000 เมกะวัตต์ ทั้งจากโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และชีวมวล

     นายจอมทรัพย์ คาดว่า ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้จะได้ข้อสรุปการร่วมทุนกับพันธมิตรในประเทศญี่ปุ่นเข้าลงทุนโครงการโซลาร์ฟาร์มในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายมีกำลังผลิตไฟฟ้าในญี่ปุ่นทั้งหมด 300 เมกะวัตต์ อย่างไรก็ตาม บริษัทมองโอกาสการลงทุนโครงการโซลาร์ในประเทศอื่นๆ ด้วย ทั้งฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ และกลุ่มสหภาพยุโรป ซึ่งบางรายนั้นบริษัทได้เข้าไปเจรจากับพันธมิตรบ้างแล้ว อย่างเช่นใน ฟิลิปปินส์ แต่ยังไม่มีความคืบหน้า

    ส่วนการลงทุนในประเทศนั้น บริษัทยังได้มีการลงนามในข้อตกลงควมเข้าใจเบื้องต้น(MOU)เพื่อเข้าลงทุนในโครงการโซลาร์ฟาร์มที่ยังค้างท่ออีกจำนวน 250 เมกะวัตต์ โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการประเมินมูลค่าการลงทุน ก่อนจะทยอยนำเสนอให้กับที่ประชุมคณะกรรมการบริหารและที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติ

    ทั้งนี้ ปัจจุบัน บริษัทมีขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าและมีการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ของโครงการโซลาร์ฟาร์มทั้งหมด 145 เมกะวัตต์ และในไตรมาส 3/58 บริษัทก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของผู้ประกอบการโซลาร์ฟาร์มในประเทศที่มีขนาดกำลังการผลิตและมีการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD)มากที่สุดในประเทศไทยที่ 396 เมกะวัตต์

    นายจอมทรัพย์ กล่าวว่า ผลดำเนินงานของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโตโดดเด่นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4/58 ที่รายได้จะเติบโตก้าวกระโดดและมีแนวโน้มที่จะพลิกกลับมามีกำไร เนื่องจากในช่วงครึ่งปีหลังจะมีการ COD มากขึ้น โดยไตรมาส 3/58 จะมีการ COD ราว 396 เมกะวัตต์

    อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดการณ์ผลการดำเนินในปีนี้จะกลับมามีกำไร จากที่ขาดทุน 89.55 ล้านบาทในปี 57 อีกทั้งยังมองแนวโน้มรายได้ในปี 59 จะทำได้ไม่ต่ำกว่า 4.25 พันล้านบาท เนื่องจากรับรู้รายได้จากการ COD ของโครงการโซลาร์ฟาร์มรวม 500 เมกะวัตต์เต็มที่ตลอดทั้งปี ขณะที่บริษัทมีแผนล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่กว่า 700 ล้านบาททั้งหมดภายในปีนี้ โดยใช้กำไรจากการดำเนินงานและส่วนเกินมูลค่าหุ้น

      สำหรับ แผนการดำเนินงานในช่วง 3 ปีข้างหน้า (58-60) วางเป้าหมาย COD ได้ 2,000 เมกะวัตต์ ส่วนใหญ่จะมาจากโซลาร์ฟาร์มทั้งการร่วมมือกับพันธมิตรในและต่างประเทศ และยังมาจากพลังงานลมและพลังงานชีวมวล (ขยะ) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาและบางส่วนได้ลงมือก่อสร้างไปแล้ว

    ด้านการจัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อขยายธุรกิจนั้น สามารถขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้มากถึง 70% ส่วนที่เหลือ 30% มาจากเงินทุนของบริษัท นอกจากนี้ SUPER  จะได้รับจากการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิ SUPER-W1 ที่จะมีการใช้สิทธิในเดือน ก.ค.นี้  SUPER-W2 ที่จะมีการใช้สิทธิในเดือน พ.ย.นี้ รวมถึง SUPER-W3 ที่จะมีการใช้สิทธิ์ในช่วงต้นปี 59 เมื่อรวมการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิ์ทั้ง 3 ครั้ง จะทำให้บริษัทได้รับเงินถึง 14,000 ล้านบาท

    นอกจากนี้ ยังจะมีการเสนอขายหุ้นแบบเฉพาะเจาะจง (PP) จำนวน 2,000 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 2.50 บาท ซึ่งจะทำให้ได้รับเงินเพิ่มเข้ามาอีกประมาณ 5,000 ล้านบาท จึงทำให้มั่นใจว่า บริษัทฯ มีเงินลงทุนมากพอสำหรับการขยายธุรกิจดังกล่าว

   นายจอมทรัพย์ กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาเปลี่ยนชื่อบริษัท ซึ่งจะมีการนำเสนอแก่ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท โดยที่ผ่านมาคณะกรรมการบริษัทต่างมีความเห็นต่างๆในการเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินงานของธุรกิจที่เป็นธุรกิจพลังงาน ซึ่งการประชุมคณะกรรมการบริษัทในครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 11 ส.ค.58

      อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!