WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

MoogสวรรณาMOONG คงเป้ารายได้ปีนี้โต 10-15% ลุยเจาะตลาดเวียดนาม-เมียนมาร์เพิ่ม เตรียมออกหุ้นกู้-ขายหุ้น PP ระดมเงินซื้อกิจการ

    MOONG คาดรายได้ Q2/58 จะทรงตัวเมื่อเทียบกับ Q1/58  เหตุภาพรวม ศก.-กำลังซื้อชะลอ  แต่ยังคงเป้ารายได้ปีนี้โต 10-15% เหตุมีสินค้าใหม่จำหน่าย-สินค้าเดิมยอดขายโต เล็งนำสินค้าจำหน่ายในตลาดเวียดนาม-เมียนมาร์ จากเดิมมีลาว กัมพูชา พร้อมหาช่องซื้อกิจการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องธุรกิจเดิม ใช้เงินจากการออกหุ้นกู้-ขาย PP

 นางสาวสุวรรณา โชคดีอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มุ่งพัฒนา อินเตอร์แนชชั่นแนล จำกัด (มหาชน)หรือ MOONG เปิดเผยว่า แนวโน้มรายได้ไตรมาส 2 คาดว่าจะทรงตัวใกล้เคียงกับไตรมาส 1 ที่มีรายได้ 171.66 ล้านบาท เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอทำให้กำลังซื้อชะลอตาม ร้านค้าปลีกต่างๆซื้อสินค้าลดลง ซึ่งบริษัทฯระมัดระวังในการให้เครดิตในการจำหน่ายสินค้ามากขึ้น แต่ทั้งนี้เชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังภาพรวมเศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้น ทำให้ยอดขายของบริษัทฯฟื้นตัว ซึ่งปกติแล้วในช่วงครึ่งปีหลังจะมียอดขายดีกว่าครึ่งปีแรก

 นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทฯจะจำหน่ายสินค้าใหม่อีก 2 สินค้า ซึ่งจะทำให้มียอดขายที่มากขึ้น ดังนั้นมั่นใจว่ารายได้ปี 2558 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่คาดว่าโต 10-15% จากปี 2557 ที่มีรายได้รวม 760.54 ล้านบาท และบริษัทฯคาดว่ากำไรปีนี้จะดีกว่าปี 2557 ที่มีกำไรสุทธิ 57.74 ล้านบาท เพราะยอดขายที่เพิ่มขึ้น และบริษัทฯจะรับรู้กำไรจากบริษัท ไทยพีเจ้น จำกัด มากขึ้นจากยอดขายที่จะเติบโตที่ดีในปีนี้ โดย MOONG ถือหุ้นในสัดส่วน 47% ประกอบกับค่าเงินบาทอ่อนค่าส่งผลให้ไทยพีเจ้น ส่งออกสินค้าไปต่างประเทศได้มากขึ้น

   สำหรับ ขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการพิจารณานำสินค้าไปจำหน่ายต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยมีความสนใจที่จะนำสินค้าไปจำหน่ายที่เวียดนาม พม่า จากปัจจุบันที่ส่งสินค้าไปจำหน่ายแล้วที่ลาวและกัมพูชา โดยสินค้าที่จะนำไปจำหน่ายเป็นผลิตภัณฑ์สำลีแบรนด์วีแคร์ ซึ่งปีนี้คาดจะมีสัดส่วนรายได้จากการส่งออก 1% ของรายได้รวม โดยบริษัทฯตั้งเป้า 3 ปีข้างหน้าจะมีสัดส่วนรายได้การส่งออกเป็น 5% ทั้งนี้บริษัทฯตั้งงบลงทุนกิจกรรมทางการตลาด 40-50 ล้านบาท ในการสร้างแบรนด์ผ่านสื่อออนไลน์และสื่อภายนอกอาคารให้มากขึ้น เพื่อให้ประชาชนรู้จักสินค้าของบริษัทฯ โดยเงินทุนจะมาจากกระแสเงินสดของบริษัทฯ

 นายสุเมธ เลอสุมิตรกุล ประธานกรรมการ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการพิจารณาที่จะเข้าไปซื้อกิจการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักของบริษัทฯ ที่จะทำให้มียอดขายที่มากขึ้น หรือช่วยทำให้บริษัทฯมีต้นทุนในการดำเนินงานที่ลดลง ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะสรุปเมื่อไหร่ เพราะขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาส แต่จากที่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีนี้ชะลอตัวเป็นโอกาสที่จะเข้าไปลงทุนหากบริษัทไหนที่ประสบปัญหาทางการเงิน โดยบริษัทฯตั้งเป้าที่จะเข้าไปถือหุ้นเกิน 50%

 สำหรับแหล่งเงินทุนที่นำมาใช้จะมาจากการออกหุ้นกู้ และการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจง (PP) ที่บริษัทฯได้ขออนุมัติผู้ถือหุ้นไว้แล้ว โดยจะออกหุ้นกู้ประมาณ 500 ล้านบาท และเสนอขายหุ้น PP จำนวน 27 ล้านหุ้น โดยหากมีความชัดเจนในการซื้อกิจการบริษัทฯจะมีการกำหนดระยะเวลาการออกหุ้นกู้และขายหุ้น PP ต่อไป สำหรับเงินที่บริษัทฯจะได้รับจากการขายหุ้นเพิ่มทุนแก่ผู้ถือหุ้นเดิม (RO) ในเดือนนี้ บริษัทฯจะนำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการสั่งซื้อสินค้าใหม่ที่จะนำมาขายในช่วงครึ่งปีหลัง

 "บริษัทฯสนใจที่จะเข้าไปลงทุนในกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลักของบริษัทฯ ซึ่งจะเข้าไปถือในสัดส่วนมากกว่า 50% ขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะสรุปได้เมื่อไหร่ เพราะขึ้นอยู่กับจังหวะโอกาส โดยปีที่ผ่านมาบริษัทฯได้เจรจาถึง 5 รายแต่ก็ไม่สำเร็จ จากที่บริษัทฯได้มีการขออนุมัติผู้ถือหุ้นในการเพิ่มทุน 80 ล้านหุ้น โดยแบ่งเป็นขาย RO 24 ล้านหุ้น ขาย PP 27 ล้านหุ้น และออกหุ้นเพื่อรองรับใบวอร์แรนต์ MOONG-W1 อีก 24 ล้านหุ้น เพื่อเพื่อต้องการเพิ่มสภาพคล่องการซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ จากปัจจุบันที่มีฟรีโฟลตน้อย เพราะผู้ถือหุ้นของบริษัทฯถือลงทุนระยะยาวไม่ได้เทรดรายวัน ซึ่งหุ้น PP นั้น บริษัทฯจะขายให้กับนักลงทุนที่ต้องการซื้อหุ้นของบริษัทฯเพื่อลงทุนระยะยาว แต่ไม่สามารถซื้อขายในตลาดได้ และขายให้กับนักลงทุนที่จะเข้ามาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่เกื้อหนุนธุรกิจหลักของบริษัทฯ" นายสุเมธ กล่าว

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!