Details

Category: สิ่งแวดล้อม

Published: Wednesday, 13 May 2015 10:36

Hits: 2881

                     

เนปาลอีก! แผ่นดินไหวซ้ำ-แรง 7.3 ตาย-เจ็บไปแล้วกว่าพัน เขย่าสะเทือนลามไปไกล ถึงอินเดีย-บังกลาเทศ จนท.ไทยปลอดภัยหมด

      เขย่าซ้ำ'เนปาล' สะเทือนแรง 7.3 แม็ก นิจูด จุดศูนย์กลาง ใกล้ยอดเขาเอเวอ เรสต์ ลึก18.5 กิโลเมตร เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 40 เจ็บอีกกว่าพัน ท่าอากาศยานกาฐมาณฑุต้องปิดทำการชั่วคราว ขณะที่แรงสั่นสะเทือนลามไปถึงกรุงเดลี อินเดีย และธากา บังกลา เทศ กระทรวงการต่างประเทศรายงาน คนไทยยังปลอดภัยดี

พินาศซ้ำ - สภาพซากอาคารบ้านเรือนที่พังพินาศถล่มลงมาในย่านสังขุ ของกรุงกาฐมาณฑุ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวซ้ำอีกรอบ ความรุนแรง 7.3 แม็กนิจูด มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก บาดเจ็บอีกนับพันคน เมื่อวันที่ 12 พ.ค.

วันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 8932 ข่าวสดรายวัน

     เมื่อวันที่ 12 พ.ค. เอเอฟพีรายงานว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวอีกครั้งในประเทศเนปาล ความรุนแรงขนาด 7.3 แม็กนิจูด โดยจุดศูนย์กลางมีความลึก 18.5 กิโลเมตร อยู่ห่างไปจากกรุงกาฐมาณฑุไปทางตะวันออก 83 กิโลเมตร บริเวณพรมแดนระหว่างเนปาลกับจีน ใกล้ยอดเขาเอเวอเรสต์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตล่าสุดอย่างน้อย 42 ราย และบาดเจ็บอีกอย่างน้อยกว่าพันคน ขณะที่ท่าอากาศยานกาฐมาณฑุต้องปิดทำการชั่วคราว     
     รายงานระบุว่า แรงสั่นสะเทือนเกิดขึ้นในเวลา 12.35 น. ตามเวลาท้องถิ่น สร้างความแตกตื่นให้กับประชาชนในกรุงกาฐมาณฑุที่พากันวิ่งหนีออกมานอกที่พัก นอกจากนี้ แรงสั่นสะเทือนยังลามไปไกลถึงกรุงเดลี ประเทศอินเดีย และกรุงธากา ประเทศบังกลาเทศด้วย ทำให้รัฐพิหาร ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดียได้รับผลกระทบไปด้วยและมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 ราย โดยถือเป็นเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงหลังเหตุธรณีพิบัติขนาด 7.8 แม็กนิจูด ที่คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 8,000 ราย เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังเกิดอาฟเตอร์ช็อกขนาด 5.6 แม็กนิจูดตามมาในอีก 30 นาที ที่บริเวณเขตราเมชหับ ทางตะวันออกของกรุงกาฐมาณฑุด้วย 
     วันเดียวกัน เอพีรายงานว่า กระทรวงมาตุภูมิของเนปาล ประกาศยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหว 7.3 แม็กนิจูด เพิ่มเป็นอย่างน้อย 42 ราย บาดเจ็บกว่า 1,117 คน
     รายงานข่าวระบุด้วยว่า นอกจากผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บแล้ว มหันตภัยระลอกใหม่นี้ยังก่อให้เกิดความเสียหายมากขึ้นเป็นทวีคูณ โดยจากช่องโทรทัศน์ของเนปาลจะเห็นได้ว่าตึกอาคารต่างๆ รวมทั้งอาคารรัฐสภาของเนปาลต้องเสียศูนย์เพราะการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก นอกจากนี้ตึกหลายแห่งในทิเบตก็ยังต้องล้มครืนลง

ไหวซ้ำอีก - ชาวเนปาลแตกตื่นวิ่งหนีออกมานอกอาคารในกรุงกาฐมาณฑุ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวซ้ำขนาด 7.3 แม็กนิจูด และอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกครั้งขนาด 5.6 แม็กนิจูด มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก บาดเจ็บนับพันคน เมื่อวันที่ 12 พ.ค.

      นายโจนาธาน อาโมส ผู้สื่อข่าววิทยา ศาสตร์ของบีบีซีได้เขียนบทวิเคราะห์เหตุ การณ์ทั้งหมดเอาไว้ว่า มหันตภัยทั้งหมดนี้ รวมของเมื่อวันที่ 25 เม.ย. มีสาเหตุมาจากรอยแตกตามชั้นหินในเปลือกโลกซึ่งสะสมนานนับปี ส่วนครั้งล่าสุดนี้ แม้ว่าความรุนแรงอาจจะไม่เท่าครั้งก่อน และจำนวนผู้เสียชีวิตอาจจะมีไม่มากจนเกินไปก็ตาม แต่ก็ยังควรต้องเฝ้าระวังความเสี่ยงเรื่องแผ่นดินถล่มและหิมะด้วย
      นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เผยว่า จากเหตุแผ่นดินไหวซ้ำขนาด 7.3 แม็กนิจูด ที่เมืองนัมเช บาซาร์ (Namche Bazar) ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุ 84 ก.ม. เบื้องต้นสถานทูตไทย ณ กรุงกาฐมาณฑุ รายงานว่า คนไทยปลอดภัย
     ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศเนปาล พล.ต.ปริญญา ขุนนาศรี รองเจ้ากรมยุทธการทหาร ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในประเทศเนปาล และกำลังพล 36 นาย ได้เสร็จสิ้นภารกิจบรรเทาสาธารณภัยในประเทศเนปาลเรียบร้อยแล้ว และได้เดินทางกลับประเทศไทย ด้วยเครื่องบินซี 130 ของกองทัพอากาศ ซึ่งจะลงจอดพร้อมมี พิธีต้อนรับกำลังพลที่เดินทางกลับ ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง โดยมี พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ผบ.สส. เป็นประธานในพิธี 
      สำหรับ การปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในประเทศเนปาลของกองทัพไทย เริ่มภารกิจตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย. ถึง 12 พ.ค. รวมกว่า 15 วัน โดยภารกิจหลักคือ การให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์ ด้านค้นหาและกู้ภัย ด้านการมอบสิ่งของบริจาค และด้านการผลิตน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค โดยผลการปฏิบัติภารกิจเป็นไปตามวัตถุประสงค์ ให้การรักษาผู้ป่วย 2,351 ราย ผลิตน้ำดื่มได้ 65,000 ลิตร ค้นหาผู้เสียชีวิตได้จำนวนหนึ่ง บริจาคสิ่งของให้กับชุมชนขนาดใหญ่ 2 ชุมชน ซึ่งได้รับความชื่นชมจากทั้งรัฐบาล และกองทัพเนปาลเป็นอย่างมาก

เขย่าซ้ำ - เจ้าหน้าที่เร่งหาผู้รอดชีวิตที่คาดว่าติดอยู่ใต้ซากอาคารพังพินาศถล่มลงมาในย่านสังขุ ของกรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล หลังเกิดแผ่นดินไหวซ้ำอีกรอบ รุนแรง 7.3 แม็กนิจูด มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บรวมนับพันคน เมื่อวันที่ 12 พ.ค.

      โดยเฉพาะประชาชนผู้ประสบเหตุแผ่นดินไหว ที่กองทัพไทยให้ความช่วยเหลือ ต่างรู้สึกดีใจและชื่นชมทหารไทยอย่างมาก โดยชาวเนปาลจะกล่าวคำขอบคุณทุกครั้งที่ได้พบหน้า และจบด้วยคำที่ขอให้กลับมาใหม่ทุกครั้งที่จะจากกัน ถือเป็นสิ่งที่สร้างความตื้นตันใจให้แก่กำลังพลทุกนายที่ได้ปฏิบัติภารกิจ และภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องชาวเนปาล พร้อมทั้งหวังว่าชาวเนปาลและประเทศชาติ จะกลับคืนสู่ปกติโดยเร็ว
      รองโฆษกรัฐบาลกล่าวว่า นายกฯ ยังส่งกำลังใจไปยังทีมแพทย์ไทยที่ยังปฏิบัติภารกิจอยู่ในเนปาล โดยให้ทั้งการบริการทางการแพทย์ และจัดกิจกรรมสันทนาการให้แก่เด็กและผู้ใหญ่ในพื้นที่เพื่อช่วยผ่อนคลายความ เครียด รวมทั้งจัดกิจกรรมให้ความรู้ด้านสุขศึกษาแก่เด็กเยาวชนในชุมชน และให้บริการตัดผมแก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมระหว่างการจัดตั้งหน่วยตรวจโรคอีกด้วย
      "นายกฯ ฝากให้กำลังใจทีมแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่านที่ปฏิบัติหน้าที่ในเนปาล โดยถือว่าทุกท่านทำหน้าที่เป็นตัวแทนประเทศไทยในการแสดงน้ำใจและมนุษยธรรมให้เป็นที่ประจักษ์ และขอให้ทีมบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนรักษาสุขภาพด้วย" รองโฆษกรัฐบาล กล่าว
       ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.พม. รับมอบเงินบริจาคจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวง เพื่อส่งมอบให้รัฐบาลสมทบทุนบัญชี "หัวใจไทย ส่งไปเนปาล" นำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาล
     พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของกระทรวง ได้ร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวทั้งสิ้น 839,178 บาท นอกจากนี้ยังจะได้รับมอบเงินบริจาคจากโรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง และวงดนตรีคาราบาว ที่จัดคอนเสิร์ตการกุศลภายใต้ชื่องาน "คอนเสิร์ตการกุศลรวมน้ำใจช่วยเนปาล PRAY FOR NEPAL" เพื่อหารายได้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล ที่โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง สาขาเลียบทางด่วนรามอินทรา กรุงเทพฯ อีกด้วย
     พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า สำหรับเงินบริจาคทั้งหมดที่ได้รับมอบในวันนี้จะนำไปบริจาคผ่านบัญชี "หัวใจไทยส่งไปเนปาล" ภายในสัปดาห์นี้ และขอเชิญชวนให้ประชาชนร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในประเทศเนปาล โดยสามารถบริจาคผ่านทางบัญชี "หัวใจไทย ส่งไปเนปาล" ธนาคารกรุงไทย สาขาทำเนียบรัฐบาล หมายเลขบัญชี 067-0-10330-6 เนื่องจากการฟื้นฟูประเทศเนปาลจากเหตุ การณ์ครั้งนี้จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก เพื่อที่จะให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
      เวลา 17.15 น. ที่ท่าอากาศยานกองบิน 6 แห่งที่ 2 (บน.6 ) ดอนเมือง พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ผบ.สส. เป็นประธานต้อนรับกำลังพลของกองทัพไทย ที่กลับจากการปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยเหตุแผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาล ตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย. ถึงวันที่ 12 พ.ค. ประกอบด้วย ส่วนอำนวยการ ส่วนสนับสนุน ชุดแพทย์ฉุกเฉิน และชุดผลิตน้ำดื่ม ชุดช่วยเหลือฟื้นฟูภัยพิบัติ 53 นาย โดยมีข้าราชการจากกองทัพไทย พร้อมครอบครัวของกำลังพลร่วมให้การต้อนรับ ซึ่งในครั้งนี้ และมีผู้โดยสารชาวไทย ที่มีความประสงค์ขอเดินทางกลับประเทศไทย 2 คน คือ นางสุนีย์ ปัณฑ์ และด.ช.หิมาลาบา ปัณฑ์ โดยเครื่องบินซี 130 ของกองทัพอากาศ