WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

วันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8603 ข่าวสดรายวัน


ชัยวัฒน์โต้ลั่น-ไม่เกี่ยว ภาพลับ'บิลลี่'แฉตัดไม้


บิลลี่ศึกษา - ม.นเรศวร จ.พิษณุโลก จัดเสวนาและนิทรรศ การเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน โดยยกกรณีนาย บิลลี่ รักจงเจริญ แกนนำกะเหรี่ยงแก่งกระ จาน ที่หายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำ มาเป็นหัวข้อศึกษา เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 

     ตั้งกรรมการสอบภาพจนท.อุทยานตัดไม้ในป่าแก่งกระจาน ขีดเส้นตายให้รู้ผลใน 7 วัน ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 เชื่อคนในรูปเป็นเจ้าหน้าที่จริงไม่ใช่ชาวบ้านที่กล่าวอ้าง ด้าน'ชัยวัฒน์'แจงเป็นไม้ของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน มาขออนุญาตแปรรูปไปซ่อมโรงเรียน โดยรูปคนใส่เสื้อเจ้าหน้าที่เป็นแค่ชาวบ้าน เชื่อมีคนใส่ร้ายด้านเมียบิลลี่-พอละจี เดินทางยื่นหนังสือถึงบิ๊กตู่ ช่วยตามหาสามี 20 มิ.ย. นี้ พร้อมยื่นหนังสือถึงยูเอ็น กรณีชาวกะเหรี่ยงถูกใส่ร้ายตัดไม้ในป่า ทั้งที่ไม่ได้ทำ

       เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. นายสรัชชา สุริยกุล ณอยุธยา ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3(เพชรบุรี) กล่าวว่า ตนเซ็นคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว ต้องรู้ผลภายใน 7 วัน โดยมีนายวัฒนา พรประเสริฐผอ.ส่วนอุทยานฯ เป็นประธานการตรวจสอบเบื้องต้นตนเห็นภาพดังกล่าวแล้ว ซึ่งคนที่แต่งตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯนั้น ตนมั่นใจว่าไม่ใช่ชาวบ้าน ต้องเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯ อย่างแน่นอน เพราะเครื่องแบบชุดสีน้ำตาลแขนยาว ด้านหลังระบุกรมอุทยานฯเป็นเครื่องแบบที่แจกให้เจ้าหน้าที่ใช้ในกรณีเข้าช่วยเหลือประชาชน เมื่อเกิดเหตุการณ์ปัญหาสำคัญหรือเกิดภัยพิบัติ ส่วนอีกชุดเป็นชุดลายพราง ทั้ง 2 ชุด เป็นชุดของเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ไม่ใช่ชุดที่แจกจ่ายให้กับชาวบ้านได้ง่ายๆ"ส่วนไม้ดังกล่าวจะมีที่มาอย่างไรต้องตรวจสอบเช่นกัน ซึ่งตามระเบียบหากเจ้าหน้าที่จะทำการเลื่อยไม้ หรือแปรรูปไม้ หัวหน้าอุทยานฯในพื้นที่ต้องขออนุญาตจากอธิบดีกรมอุทยานฯก่อน จากนั้นจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา เพื่อตรวจสอบว่าไม้ดังกล่าวไปทำประโยชน์ตามที่แจ้งมาหรือไม่ รวมทั้งการประเมินว่า สามารถแปรรูปได้กี่แผ่น ทั้งนี้หากไม่ทำตามระเบียบดังกล่าวนี้ จะมีความผิดหลายกระทงคือ ความผิดตามพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 และพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 เพราะทรัพยากรป่าไม้ถือเป็นทรัพย์ของแผ่นดิน ใครจะนำไปใช้ประโยชน์โดยมิชอบไม่ได้" นายสรัชชากล่าวนายนิพนธ์ โชติบาล รักษาการแทนอธิบดี

     กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า สั่งให้ตรวจสอบรูปดังกล่าวแล้วว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร เพราะสมัยนี้มีการตัดต่อรูปถ่ายกันเยอะ ถ้าเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ลักลอบตัดไม้จริงๆ ตนก็จะลงโทษตามกฎหมายเอง ส่วนของคดีการหายตัวของนายพอละจี ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ซึ่งหลังการสั่งย้ายนายชัยวัฒน์ ไปส่วนกลางกรมอุทยานฯ เพื่อลดแรงกดดันจากสังคม และเพื่อความสบายใจของทุกฝ่ายนั้นตนเคยพูดคุยกับทางเอ็นจีโอทั้งในประเทศและต่างประเทศว่าพึงพอใจหรือไม่ ทางเอ็นจีโอก็บอกว่าพอใจในระดับหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามหากผลการสอบสวนยังไม่คืบหน้า ตนก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับนายชัยวัฒน์เช่นกัน ซึ่งอาจมีคสั่งย้ายนายชัยวัฒน์กลับไปเป็นตำแหน่งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานตามเดิมนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวถึงรูปที่นำมาจากกล้องนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย ที่หายตัวไป

      ตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นรูปของกลุ่มบุคคลคล้ายเจ้าหน้าที่ใช้เลื่อยยนต์ตัดไม้ในพื้นที่ป่า ว่า ไม่รู้ว่าใครตั้งใจจะกลั่นแกล้งตน แต่รูปดังกล่าวมีที่มาจากร.ต.อ.ไสว อัครพันธุ์ ครูใหญ่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน บ้านโป่งลึก อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ไม้ที่เห็นนั้นเป็นไม้ที่จมอยู่ในคูน้ำหลังโรงเรียนทางโรงเรียนจึงเอาไม้ดังกล่าวมาใช้งาน ส่วนหนึ่งนำไปซ่อมแซมโรงอาหารที่ชำรุดอยู่ อีกส่วนหนึ่งนำไปทำเป็นป้ายโครงการปิดทองหลังพระและกรอบรูปพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ซึ่งทางครูใหญ่เห็นว่าจะมีการเลื่อยไม้ อาจจะส่งเสียงดัง จึงมาขออนุญาตตน ซึ่งจริงๆ แล้วก็เป็นไม้ของโรงเรียน ไม่

       ต้องมาขออนุญาตก็ได้ จึงบอกให้ดำเนินการได้เลย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ของโครงการปิดทองหลังพระยังช่วยเอารถแบ๊กโฮยกไม้ขึ้นมาอีกด้วย ส่วนคนที่เห็นในรูปก็เป็นอาสาสมัครชาวบ้าน"ผมคุยกับครูใหญ่เรื่องนี้แล้ว ครูใหญ่ก็ไม่สบายใจที่รูปดังกล่าวออกมาเผยแพร่เพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผมเลย ส่วนชาวบ้านที่เข้าไปช่วยและมีการแต่งตัวคล้ายเจ้าหน้าที่

      กรมอุทยานฯ นั้น ผมไม่รู้ว่ามีที่มาอย่างไรและผมไม่เข้าใจว่าทำไมต้องกลั่นแกล้งกันได้ขนาดนี้" นายชัยวัฒน์กล่าวร.ต.อ.ไสวกล่าวว่า ไม้ดังกล่าวเป็นไม้ตะเคียน ซึ่งลอยมาจากไหนไม่รู้ แต่คาดว่าเป็นไม้สัมปทานเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว ซึ่งตนพบไม้ดังกล่าวประมาณต้นปีที่ผ่านมา สภาพไม้ไม่ได้สมบูรณ์มาก มีผุพังเล็กน้อย ทางโรงเรียนจึงนำมาใช้ประโยชน์ ซึ่งก่อนจะนำมาใช้ก็ได้ขออนุญาตนายชัยวัฒน์แล้ว เพราะเห็นว่าเป็นไม้ที่ไม่มีที่มา ส่วนคนที่แต่งตัวคล้ายเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ยืนยันว่าเป็นชาวบ้าน ส่วนใครเป็นคนถ่ายรูปดังกล่าวไว้ ตนไม่รู้จริงๆที่ จ.เพชรบุรี น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณภรรยานายพอละจี หรือบิลลี่กล่าวว่า บิลลี่เคยเปิดภาพดังกล่าวให้พี่ชายตนดู ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายภาพ โดยเป็นภาพที่ตัดไม้ท่อนใหญ่ๆทั้งนี้ในส่วนคดีของพี่บิลลี่นั้นตอนนี้เงียบและไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด โดยในวันที่20 มิ.ย. จะเดินทางเข้ามายื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช.ให้ช่วยตามหาบิลลี่นายเกรียงไกร ชีช่วง เลขาธิการเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม เขตตะนาวศรี กล่าวว่า อยากให้กรมอุทยานฯ เข้ามาตรวจสอบภาพดังกล่าวว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และเกี่ยวข้องกับการหายไปของบิลลี่หรือไม่

     โดยก่อนหน้านี้นายบิลลี่เคยนำภาพดังกล่าวมาให้ตนดูว่าเกิดอะไรขึ้นที่บ้านของเขาที่ผ่านมานายบิลลี่พยายามที่จะอธิบายและบอกว่าสิ่งที่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ทำนั้น เป็นสิ่งที่ชาวบ้านถูกกล่าวหา เช่น การตัดไม้ ที่ชาวบ้านถูกกล่าวหาว่าทำลายป่ามาโดยตลอด ทั้งนี้ในวันที่ 20 มิ.ย. จะนำน.ส.พิณนภา เข้ายื่นหนังสือที่สหประชาชาติ และยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ด้วยวันเดียวกัน ที่ห้อง 301 อาคารเอกาทศรถมหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก มีงานเปิดตัวหนังสั้นชื่อ "วิถีชีวิตสัญจร" ซึ่งเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของชาวกะเหรี่ยงบ้านกร่างอ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยเฉพาะการหายไปของบิลลี่โดยนางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยานายสมชาย นีละไพจิตร ทนายความมุสลิมที่ถูกอุ้มหายไป กล่าวว่า สังคมไทยต้องมีความรู้และรณรงค์ไม่ให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนในการอุ้มหาย บิลลี่เป็นสัญลักษณ์ ไม่ว่าใครก็ตามต้องไม่ถูกบังคับสูญหาย รัฐเองต้องสร้างหลักประกันว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้น

       ปัญหาที่เราพบเจ้าหน้าที่ของรัฐบางคนเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง จึงทให้เป็นอุปสรรคสำคัญและเมื่อไม่มีศพ สิทธิของญาติในการจะหาความเป็นธรรมยังไม่มี กรณีบิลลี่ กรณีสมชาย เราจะไม่ปล่อยความกลัวให้ทำลายความกล้าทางจริยธรรมที่เรามีหน้าที่ทางสังคมร่วมกัน จึงเสนอให้มีกฎหมายเอาผิดการอุ้มฆาตกรรมที่ไม่มีศพ ซึ่งความผิดต้องรวมถึงผู้บังคับบัญชาหรือผู้ที่รู้เห็นเป็นใจด้วย และควรจะลงนามในอนุสัญญากับองค์กรระดับชาติเพื่อไม่ให้เรื่องนี้เงียบหายไป

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!