Details

Category: สิ่งแวดล้อม

Published: Friday, 01 August 2014 22:47

Hits: 4561

วันที่ 01 สิงหาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8647 ข่าวสดรายวัน

ฝนถล่มอีสาน 'อุบล-สกล'ยับ'นา'จมแสนไร่ 'ใต้-ตอ.'จ่อคิว

ท่วมแล้ว - หลังเกิดฝนตกหนักตลอดคืน ทำให้ปริมาณน้ำสะสมทะลักท่วมบนถนนสายหลักในตัวเมืองอุบลราชธานีสูงกว่า 50 เซนติเมตร จนท.ต้องเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำระบายลงลำห้วยวังนองเพื่อแก้ปัญหา เมื่อวันที่ 31 ก.ค.

    อีสานอ่วม ฝนตกต่อเนื่อง อธิบดีปภ.เผย อุบลฯกับสกลนครหนักสุด ท่วมบ้านกว่า 3 หมื่นครัวเรือน พื้นที่เกษตรจมกว่าแสนไร่ ส่วนที่ อ.เมืองอำนาจเจริญเจอฝนต่อเนื่องท่วมสูง 1 เมตร ศรีสะเกษน้ำหลาก 16 หมู่บ้าน ไร่นาถูกน้ำท่วมหมื่นไร่ ที่ อ.ไทยเจริญ จ.ยโสธร เสียหาย 3 หมื่นไร่ อุตุฯ ชี้ 3-6 ส.ค. เหนือ-อีสานฝนลด แต่ภาคกลาง-ตะวันออกและใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนเพิ่มขึ้น
   เมื่อวันที่ 31 ก.ค. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัย 2 จังหวัด ได้แก่ สกลนคร และอุบลราชธานี รวม 22 อำเภอ 81 ตำบล 662 หมู่บ้าน 31,261 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 108,365 ไร่ โดยจังหวัดสกลนคร เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 5 อำเภอ 16 ตำบล 136 หมู่บ้าน ได้แก่ อ.เมืองสกลนคร อ.โพนนาแก้ว อ.สว่างแดนดิน อ.พรรณานิคม และ อ.อากาศอำนวย ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 4,298 ครัวเรือน สะพานเสียหาย 1 แห่ง ท่อระบายน้ำ 4 แห่ง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 11,782 ไร่ ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มการเกษตร รวมถึงยังมีฝนตกในพื้นที่เล็กน้อย หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มคาดว่าสถานการณ์จะคลี่คลายในเร็วๆ นี้ 
    นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า ส่วน จ.อุบลฯ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 17 อำเภอ ได้แก่ อ.เดชอุดม อ.พิบูลมังสาหาร อ.สำโรง อ.นาเยีย อ.เมือง อ.วารินชำราบ อ.สว่างวีระวงศ์ อ.สิรินธร อ.กุดข้าวปุ้น อ.ตระการพืชผล อ.เขมราฐ อ.โขงเจียม อ.ตาลสุม อ.น้ำยืน อ.เหล่าเสือโก้ก อ.นาจะหลวย และ อ.ทุ่งศรีอุดม รวม 65 ตำบล 526 หมู่บ้าน 26,963 ครัวเรือน บ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วม 781 หลัง เจ้าหน้าที่ได้อพยพประชาชน 20 ครัวเรือน ถนนเสียหาย 181 สาย สะพาน 13 แห่ง วัด 5 แห่ง โรงเรียน 1 แห่ง สถานที่ราชการ 1 แห่ง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 65,322 ไร่ สัตว์ปีก 15,080 ตัว บ่อปลา 82 บ่อ ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่ม 4 อำเภอ ได้แก่ อ.นาเยีย อ.วารินชำราบ อ.เมือง และ อ.พิบูลมังสาหาร 
    อธิบดี ปภ.กล่าว ด้วยว่า สำหรับการให้ความช่วยเหลือ ปภ.จังหวัดได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจกจ่ายถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัย สนับสนุนเรือท้องแบน รถบรรทุก อำนวยความสะดวกในการขน ย้ายสิ่งของและให้บริการในการสัญจรแก่ประชาชนในพื้นที่ประสบภัย พร้อมเร่งตรวจสอบและสำรวจความเสียหาย เพื่อช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ผู้ประสบภัยสามารถติดต่อแจ้งเหตุและ ขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงาน ปภ.จังหวัด สำนักงาน ป.จังหวัดสาขาในพื้นที่หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
    ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศในรอบสัปดาห์ว่า ในช่วงวันที่ 31 ก.ค.-2 ส.ค. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก 
    ส่วนในช่วงวันที่ 3-6 ส.ค. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศ ไทยและอ่าวไทย มีกำลังค่อนข้างแรงประกอบ กับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่วนบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีฝนลดลง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ตลอดช่วง ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 31 ก.ค.-2 ส.ค. ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง 
     ที่ จ.อุบลฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดฝนตกหนักตั้งแต่กลางดึก ทำให้ปริมาณน้ำสะสมตั้งแต่เมื่อวานไหลท่วมถนนสายสำคัญที่เข้า สู่ตัวเมืองเป็นวงกว้าง ทั้งถนนอุบลฯ-ตระการ พืชผล บริเวณสี่แยกบ้านนาเมือง ต.ไร่น้อย อ.เมือง ถนนชยางกูร ถ.แจ้งสนิท มีระดับน้ำท่วมสูงเฉลี่ยตั้งแต่ 20-50 เซนติเมตร รถเล็กที่พยายามแล่นฝ่าเข้าไปจอดเสียเป็นระยะ ทำให้การจราจรช่วงเช้าติดขัดอย่างหนัก
    สำหรับ น้ำบริเวณถนนชยางกูรฝั่งตะวันออก ตั้งแต่ซอยชยางกูร 22 ถึง 42 ซึ่งเป็นเส้นทางไหลผ่านของคลองนาควาย มีการปลูกสร้างอาคารพาณิชย์กีดขวางทางน้ำ ทำให้น้ำระบายลงคลองไม่ทันเอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชนสูง 5-30 ซ.ม. กว่า 450 ครอบครัว เจ้าหน้าที่เทศบาลต้องนำรถตักเปิดทางน้ำในจุดที่มีขยะไปอุดตันท่อระบายน้ำ และติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังชุมชน และถนนสายสำคัญของตัวเมืองลงสู่ลำห้วย วังนอง
    สำหรับ ปริมาณน้ำฝน ซึ่งเกิดจากอิทธิพลร่องความกดอากาศต่ำพัดปกคลุมประเทศไทย ตั้งแต่เมื่อคืนถึงเช้าวันนี้ ในอำเภอเมืองอุบลราชธานี วัดได้ 160.5 มิลลิเมตร ส่วนระดับแม่น้ำมูนที่สถานีวัดน้ำสะพานเสรีประชาธิปไตย อ.เมือง เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานอีก 51 ซ.ม. เป็น 6.69 ซ.ม. ซึ่งเกินระดับเตือนภัยน้ำล้นตลิ่งไปแล้ว และเหลืออีกเพียง 30 เซนติเมตร ระดับแม่น้ำมูนก็จะล้นฝั่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่ตั้งอยู่สองฝั่งแม่น้ำ
    ขณะที่ความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ อปพร. ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด และสำนัก งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนำเรือท้องแบน พร้อมสะพานแบริ่งเข้าเชื่อมต่อถนนระหว่างบ้านนาแกไปบ้านโคกสว่าง ต.ค้อน้อย อ.สำโรง และระหว่างบ้านใหม่แสนสุขไปบ้านกระบูร ต.เหล่าแดง อ.ดอนมดแดง
    ส่วนโรงพยาบาลประจำอำเภอดอนมดแดง ซึ่งน้ำไหลท่วมห้องซักล้างและห้องครัวระดับน้ำได้ลดลงตั้งแต่ช่วงสายวันที่ 30 ก.ค. แต่อบจ. ได้นำเครื่องสูบน้ำขนาด 10 นิ้ว ไปติดตั้งเตรียมการรับมือน้ำจากลำน้ำท่าเมืองอาจไหลกลับมาท่วมได้อีกในช่วงนี้
    ที่ จ.ศรีสะเกษ นายประทีป กีรติเรขา ผวจ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า จากฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ส่งผลให้ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำทุกแห่งมีระดับน้ำ ที่สูงขึ้น ขณะที่ไร่นาของชาวบ้านมีน้ำป่าไหลหลากเข้าไปท่วมไร่นาเป็นบริเวณกว้าง และได้สั่งทุกหน่วยเตรียมเข้าไปให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่อาจจะถูกน้ำท่วมฉับพลันอย่าง เต็มที่
    สำนักงานปภ. จ.ศรีสะเกษ แจ้งว่า ได้เกิดเหตุน้ำท่วมในเขตพื้นที่ ต.กุดเสลา อ.กันทร ลักษ์ โดยเบื้องต้นมีหมู่บ้านประสบภัยน้ำท่วม 16 หมู่บ้าน ชาวบ้านถูกน้ำท่วม 812 ราย ไร่นาถูกน้ำท่วมประมาณหมื่นไร่ มีบ้านเรือนของชาวบ้านถูกน้ำท่วม 3 หลัง นอกจากนี้ที่บริเวณลำน้ำซอม ซึ่งเป็นลำห้วยรอยต่อระหว่าง อ.กันทรลักษ์ กับอ.น้ำขุ่น จ.อุบลราช ธานี น้ำป่าได้ไหลเข้าท่วมไร่นาของชาวบ้านในเขต ต.ขนุน อ.กันทรลักษ์ ประมาณ 3 ร้อยไร่ ซึ่งสำนักงานปภ.ได้ร่วมกับทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าไปให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมอย่างเร่งด่วนแล้ว
    ที่ จ.อำนาจเจริญ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลายพื้นในจังหวัดเกิดน้ำท่วมอย่างฉับพลันจากฝนที่ตกลงมา โดยเฉพาะที่บริเวณหมู่บ้านซอยวิจารย์ ม.8 ม.13 อ.เมือง เสียหายกว่า 50 หลังคาเรือน จากระดับน้ำที่สูง 60-70 ซ.ม. ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ต้องพากันขนย้ายข้าวของไปอยู่ในที่สูง โดยมีเพียงหน่วยกู้ภัยและทหารมาช่วยขนย้ายข้าวของ จนชาวบ้านบางคนถึงกับโวยวายว่า เจ้าหน้าที่ไม่เข้ามาช่วยเหลือแก้ไข
    ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากนั้นยังมีอีกหลายอำเภอที่ประสบปัญหาน้ำท่วมฉับพลัน ได้แก่ อ.หัวตะพาน อ.ลืออำนาจ อ.พนา อ.เสนางคนิคม อ.ปทุมราชวงศา อ.ชานุมาน และอ.เมือง โดยตลอดทั้งคืนยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริเวณถนนสายบายพาสอำนาจฯ-อุบลฯ ถนนเส้นอำนาจฯ-อำเภอปทุมราชวงศา ถนนสายอำนาจฯ-มุกดาหาร และสายอำนาจฯ-ยโสธร มีระดับน้ำที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่อ่างเก็บน้ำพุทธอุทยานก็เอ่อล้นออกมา น้ำจากลำเซบาย ทำให้น้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนรถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ 
     นายธนทร ศรีนาค หัวหน้าปภ.อำนาจเจริญ กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ ส่งผลให้น้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆ ทั้ง 4 แห่งได้แก่อ่างเก็บน้ำพุทธอุทยาน อ่างเก็บน้ำห้วยโพธิ์ อ่างเก็บน้ำห้วยสีโท และอ่างเก็บน้ำร่องน้ำซับ ทุกอ่างมีปริมาณน้ำเกินพิกัดจำเป็นต้องปล่อยออกทางช่องระบายน้ำอย่างรวดเร็ว เพื่อรักษาตัวเขื่อนและสันเขื่อนเอาไว้ ซึ่งก็ส่งผลให้ท้ายเขื่อน เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลันท่วมบ้านเรือน ร้านค้าและไร่นาเป็นวงกว้าง ส่วนสถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขงที่อ.ชานุมาน ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อวัดได้ 7.60 เมตร ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จากฝนที่ตกลงมา และน้ำเหนือไหลหนุนที่มาจากจ.มุกดาหาร นครพนม และหนองคาย คาดว่าจะมีฝนตกติดต่อกันหลายวันทั่วพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ อาจจะทำให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในเขตเทศบาลอ.ชานุมานได้ 
     ที่ จ.ยโสธร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝนตก หนักกระจายทั่วทั้งจังหวัดนานติดต่อกันกว่า 10 ชั่วโมง ส่งผลทำให้น้ำป่าล้นตลิ่งลำห้วยโพง หลากเข้าท่วมในเขตพื้นที่ ต.คำเตย อ.ไทยเจริญ ทั้งที่นาประมาณ 3 หมื่นไร่ บ้านเรือนราษฎรประมาณ 50 หลังคาเรือน โดยระดับน้ำสูง 80 ซ.ม. และที่ถนนจากบ้าน ซ้งแย้เข้าไปโบสถ์ไม้คริสตจักรใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และโรงเรียนบ้านซ้งแย้ทิพยา ระดับน้ำสูง 1 เมตร ต้องสั่งปิดโรงเรียนชั่วคราวจนกว่าระดับน้ำจะลด 
     ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในเขตพื้นที่ ต.โนนเปือย ต.กำแมด อ.กุดชุม ซึ่งแนวเขตติดต่อกัน ที่ปลายลำห้วยโพงจะไปบรรจบกับลำเซบาย ในเขตอ.ป่าติ้ว ก็ถูกน้ำล้นตลิ่งลำเซบายท่วมสูงกว่า 30 ซ.ม.มานานกว่า 2 สัปดาห์ โดยในวันนี้ระดับน้ำในลำเซบายวันที่ 31 ก.ค. ล้นตลิ่งสูงถึง 50 ซ.ม.