Details

Category: กีฬา

Published: Wednesday, 17 September 2014 15:18

Hits: 4115

วันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8694 ข่าวสดรายวัน

แข้งสาวกู้ชื่อ ลั่นขยี้มัลดีฟส์ ทุ่มอัดฉีด แข่งวันนี้ ต้องชนะ

ลุ้นนัด 2 - เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าโค้ชฟุตบอลทีมชาติไทยนำนักเตะลงฝึกซ้อม ที่สนามซองนา ซอคเกอร์ฟิลด์ เมืองอินชอน เกาหลีใต้ เตรียมลงเตะนัดที่ 2 กับติมอร์ เลสเต วันที่ 18 ก.ย.นี้ ในศึกเอเชี่ยนเกมส์

      นักเตะสาวไทยมีคิวดวลแข้งนัดที่ 2 กับสาวมัลดีฟส์วันนี้ ต้องชนะสถานเดียวเพื่อลุ้นเข้ารอบ หลังนัดแรกโดนสาวเจ้าภาพถล่มมา 0-5 ขณะที่คู่แข่งโดนสาวโรตียิงไม่ไว้หน้า 0-15 "โค้ชหนึ่ง" มั่นใจได้ 3 แต้มแน่ แต่ไม่กดดันเรื่องจำนวนประตู ขณะที่ "มาดามแป้ง" ผจก.ทีมประกาศอัดฉีด 3 แสนบาท 

เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานจากเมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ ถึงความเคลื่อนไหวของทัพนักกีฬาไทยที่ไปแข่งขันมหกรรมกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 17 โดยวันพุธที่ 17 ก.ย. เวลา 12.00 น.ตามเวลาประเทศไทย นักเตะสาวไทยมีคิวลงฟาดแข้งนัดที่ 2 กับสาวมัลดีฟส์ ที่สนามนัมดง โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยถ่ายทอดสดทางช่อง NBT และช่องทรูสปอร์ต เอชดี 3 ซึ่งนัดแรกสาวไทยโดนสาวเจ้าภาพถล่ม 0-5 ประตู ขณะที่สาวมัลดีฟส์โดนสาวอินเดียยิงไม่ไว้หน้า 15-0 ประตู

ความพร้อมของนักเตะสาวไทย เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 16 ก.ย.ตามเวลาท้องถิ่น "โค้ชหนึ่ง"หนึ่งฤทัย สระทองเวียน หัวหน้า สต๊าฟโค้ช นำลูกทีมลงฝึกซ้อมที่สนามนัมดง เอเชียดรักบี้ฟิลด์ เน้นการขึ้นเกม การสร้างความสัมพันธ์ในทีม บรรยากาศการซ้อมเป็นไปอย่างสนุกสนาน

"โค้ชหนึ่ง"หนึ่งฤทัย ให้สัมภาษณ์หลังการฝึกซ้อมว่า เกมกับมัลดีฟส์ต้องเก็บ 3 แต้มให้ได้สถานเดียว ส่วนจะยิงประตูได้มากน้อยขนาดไหนไม่สำคัญ เพราะไม่อยากกดดันนักเตะ แต่สิ่งที่ต้องการจากนักเตะคือการต่อเกมเข้าจบสกอร์ เพราะนัดแรกนักเตะเน้นยิงแรงทำให้ทิศทางไม่เข้ากรอบ ดังนั้น จึงกำชับให้เน้นเรื่องของทิศทางของบอล เพราะเกมสำคัญคือนัดสุดท้ายที่จะต้องแย่งกันเป็นอันดับ 2 ของสายกับอินเดีย เพื่อตามเกาหลีใต้ เจ้าภาพ ที่คาดว่าจองแชมป์กลุ่มแน่นอนเข้ารอบต่อไป

"ที่ผ่านมาเรายังไม่เคยเตะกับอินเดีย ทำให้ไม่รู้ขีดความสามารถคู่แข่ง เบื้องต้นเท่าที่ศึกษาเกมการเล่นในนัดที่อินเดียเตะกับมัลดีฟส์ คิดว่าไม่น่ามีปัญหา เพราะดูจากศักยภาพของนักเตะไทยเรามีฟอร์มการเล่นและรูปแบบการเล่นดีกว่า แต่กำชับนักเตะไม่ให้ประมาท การเข้าเป็นอันดับสองของสายคาดว่าจะเข้าไปพบกับเวียดนาม คู่ปรับเก่า ซึ่งหลายทัวร์นาเมนต์เราเอาชนะได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งชิงแชมป์เอเชีย และชิงแชมป์อาเซียน ดังนั้น ต้องกระตุ้นลูกทีมให้โชว์ความสามารถให้มากที่สุด เราต้องการให้นักเตะยกระดับให้เหนือกว่านักเตะระดับอาเซียน ศึกเอเชี่ยน เกมส์ครั้งนี้เป้าหมายของเราอยู่ที่รอบ 4 ทีมสุดท้าย ขณะเดียวกันถ้าเข้าเป็นอันดับสามต้องไปพบจีนหรือญี่ปุ่นซึ่งเป็นงานยากงานหิน" กุนซือสาวทีมชาติไทยกล่าว

กุนซือสาวทีมชาติไทยกล่าวต่อว่า เกมกับมัลดีฟส์จะกลับมาเล่นระบบ 4-4-2 โดยผู้เล่น 11 ตัวจริง ประกอบด้วย ญาดา เซ่งย่อง ลงเฝ้าประตูแทนวราภรณ์ บุญสิงห์ เพราะเชื่อว่าน่าจะไม่ได้รับลูกอันตรายเท่าไหร่ แผงกองหลัง 4 คน แบ๊กซ้าย สุนิสา สร้างไธสง แบ๊กขวา วารุณี เพ็ชรวิเศษ เซ็นเตอร์คู่ สุภาพร แก้วแบน ยืนกับดารัตน์ ช่างปลูก ส่วนกองกลาง นภัทร สีเสริม ยืนฝั่งซ้าย รัตติกาล ทองสมบัติ เติมฝั่งขวา คู่กลางเดินเกมรุก วิลัยพร บุตรด้วง กับศิลาวรรณ อินต๊ะมี สำหรับคู่หน้าล่าตาข่าย นิสา ร่มเย็น กับพิสมัย สอนไสย์ เชื่อว่าเกมนี้จะเก็บ 3 แต้มได้อย่างแน่นอน

ด้าน "มาดามแป้ง"นางนวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย กล่าวว่า พรุ่งนี้เป็นการแข่งขันนัดสำคัญของทีมชาติไทย แม้เราจะไม่เคยเจอกับมัลดีฟส์มาก่อน แต่จะประมาทไม่ได้ ต้องเล่นอย่างเต็มที่ตามที่ ซ้อมมา โชคดีที่น้องๆ ที่บาดเจ็บจากนัดที่แล้วฟื้นตัวแล้ว ไม่มีอะไรน่ากังวลนัก มีเพียงความคาดหวังเดียวคือต้องชนะและเก็บแต้มให้ได้ ทุกคนต้องทุ่มเต็มที่ และพยายามอย่างสุดความสามารถ สำหรับพี่น้องคนไทยติดตามเชียร์และเป็นกำลังใจให้กับนักเตะสาวไทยได้จากการถ่ายทอดสดทางช่อง NBT เวลาประมาณ 12.00 น. ตามเวลาประเทศไทย และเพื่อเป็นกำลังใจให้กับน้องๆ นักเตะ หากชนะนัดนี้จะมอบเงินเป็นขวัญกำลังใจให้ 300,000 บาท

ส่วนทีมฟุตบอลชาย มีคิวลงสนามนัดที่ 2 กับติมอร์ เลสเต เวลา 18.00 น. วันที่ 18 ก.ย. ตามเวลาประเทศไทย โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยถ่ายทอดสดผ่านทางช่อง 3 นัดแรกนักเตะช้างศึกโชว์ฟอร์มเอาชนะมัลดีฟส์ 2-0 ประตู ขณะที่ติมอร์ เลสเตโดนอินโดนีเซียถล่มมา 0-7 ประตู

"บังยี"วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ว่า จากการประเมินความสามารถนักเตะของเราในแมตช์แรก ทุกคนมีความมุ่งมั่นตั้งใจสร้างผลงานในสนามเป็นอย่างดี เชื่อว่าทุกคนจะสามารถงัดฟอร์มเก่งของตัวเองออกมาในนัดต่อๆ ไป นำประสบการณ์จากระดับสโมสรไทยพรีเมียร์ลีกออกมาโชว์ให้แฟนบอลได้เห็น นัดแรกเกมอาจดูไม่ต่อเนื่อง ไม่สวยงาม เนื่องจากนักเตะอาจจะเกร็งมากเกินไป เพราะตั้งใจสร้างผลงานให้แฟนบอลชาวไทยได้ประทับใจ สุดท้ายทุกคนก็ช่วยกันเก็บ 3 แต้มแรกได้สำเร็จ

นายกสมาคมฟุตบอลฯ กล่าวต่อว่า เชื่อว่าเกมนัดต่อๆ ไป ทั้งเจอกับติมอร์ เลสเต และอินโดนีเซีย นักเตะไทยจะทำผลงานได้ดีเก็บสามแต้มได้ทุกนัด ตนกล้ามั่นใจว่าเราจะเข้ารอบเป็นอันดับหนึ่งของสายอี เข้าไปเตะรอบ 16 ทีมคาดว่าจะเจอกับทีมชาติจีน และด้วยฟอร์มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเชื่อว่านักเตะไทยจะผ่านจีนเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้อย่างแน่นอน

"นัดต่อๆ ไปเด็กไทยจะไม่เกร็งเหมือนนัดแรกที่พบมัลดีฟส์ ส่วนเรื่องเงินอัดฉีด เบื้องต้นแต่ละแมตช์จะมอบให้ 2 แสนบาท และเมื่อพิจารณาจากความมุ่งมั่น ทุ่มเท สร้างความประทับใจให้กับแฟนบอลไทย และแฟนกีฬาชาวไทย อาจจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละนัด" นายกสมาคมฟุตบอลฯ กล่าว

ด้าน "ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าสต๊าฟโค้ช นำลูกทีมลงฝึกซ้อมที่สนามซองโด ซอคเกอร์ ก่อนให้สัมภาษณ์ว่า เกมนัดสองกับติมอร์ เลสเต เป้าหมายคือเก็บ 3 แต้มให้ได้ โดยตนจะวางแผนทีละสเต็ปแบบนัดต่อนัด โดยอีก 2 นัดที่เหลือเชื่อว่าลูกทีมจะทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ เพื่อผ่านเข้ารอบเป็นอันดับ 1 ของกลุ่ม ซึ่งสต๊าฟโค้ชเราได้ซุ่มดูฟอร์มของติมอร์ เลสเต ในเกมแพ้อินโดนีเซีย 0-7 มาแล้ว มั่นใจว่าไทยจะเอาชนะได้ ทั้งนี้ไม่รู้สึกกดดันที่จะต้องยิงประตูตุนเอาไว้มากๆ เพราะนัดสุดท้ายกับอินโดนีเซีย อาจต้องตัดสินกันด้วยลูกได้เสีย เพื่อแย่งกันเป็นแชมป์ แต่หากเก็บชัยชนะได้ทั้ง 3 นัดก็ไม่จำเป็นต้องยิงประตูเยอะ

อดีตศูนย์หน้าจอมตีลังกาทีมชาติไทยกล่าวอีกว่า เกมกับติมอร์ เลสเต อาจพักนักเตะที่ติดโทษใบเหลืองจากเกมแรก 2 คน คือ ชิติพัทธ์ แทนกลาง กองหลัง กับสารัช อยู่เย็น กองกลาง เพราะมั่นใจว่านักเตะชุดนี้ทั้ง 20 คน สามารถลงสนามทดแทนกันได้อย่างลงตัว ส่วนสราวุธ กัลยาณบัณฑิต กองหลัง ที่มีอาการบาดเจ็บ อาการดีขึ้นมากสภาพร่างกายฟิตราว 95% พร้อมลงสนามแล้ว แต่คงยังไม่เสี่ยงส่งลงพบกับติมอร์ เลสเต โดยอาจถอย ธนบูรณ์ เกษารัตน์ จากกองกลาง ไปเล่นกองหลังแทน เพราะเคยทำหน้าที่นี้มาแล้วในนัดอุ่นเครื่องที่ภูเก็ต 

โค้ชซิโก้กล่าวต่อว่า สำหรับแผงมิดฟิลด์จะส่งลงสนามพร้อมหน้าทั้ง ปกเกล้า อนันต์, ปกรณ์ เปรมภักดิ์ และภิญโญ อินพินิจ อย่างไรก็ตามจากเกมนัดแรกเกมรุกยังไม่เฉียบคม ใช้โอกาสเปลือง ขณะที่ริมเส้นไม่ดุดันเท่าตอนอุ่นเครื่อง คิดว่าอาจเป็นเพราะกดดันในการประเดิมสนาม ดังนั้นเกมกับติมอร์ เลสเต จะเร่งแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้น ต้องมีเกมรุกเฉียบคมกว่าเดิม

ส่วน "กาเซ็ม"เกษม จริยวัฒน์วงศ์ ผู้จัดการทีมช้างศึก กล่าวว่า การเตะนัดสองกับติมอร์ เลสเต ไม่รู้สึกกังวลว่าจะต้องเอาชนะให้ได้กี่ประตู เพราะมั่นใจว่าในนัดสุดท้ายไทยจะชนะอินโดนีเซียได้ เพื่อเป็นแชมป์กลุ่มเข้าสู่รอบ 16 ทีมต่อไป

ขณะที่วิเอร่า อันโตนิโอ เฮดโค้ชติมอร์ เลสเต ให้สัมภาษณ์ว่า นักเตะไทยเป็นทีมที่มีความแข็งแกร่งมาก ยอมรับว่าติมอร์ เลสเต เป็นรองอยู่พอสมควร โดยปัญหาของทีมก่อนเดินทางมาเกาหลีใต้มีมากมาย ทั้งนักเตะรวมตัวฝึกซ้อมด้วยกันไม่ถึง 2 สัปดาห์ มีแข้งหน้าใหม่ถึง 9 คน ไม่มีสนามฝึกซ้อมที่ดีเพียงพอ และไม่มีเกมอุ่นเครื่องเลย จึงทำให้เป็นรองทีมไทยในทุกด้าน

สำหรับความเคลื่อนไหวของนักกีฬาไทยประเภทอื่น นายวินิจ เลิศรัตนชัย ผู้จัดการทีมขี่ม้าทีมชาติไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมของทีมขี่ม้าว่า พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ซึ่งทรงลงแข่งขันขี่ม้าประเภทเดรสซาจ และนักกีฬาขี่ม้าอีก 10 คน ทั้งประเภทศิลปะการบังคับม้า (เดรสซาจ) ขี่ม้าข้ามภูมิประเทศ (อีเวนติ้ง) และขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง (โชว์จัมปิ้ง) ถึงเวลานี้ทุกคนพร้อมแล้วสำหรับการลงแข่งขัน 

ผู้จัดการทีมขี่ม้ากล่าวต่อว่า นักกีฬาของไทยถือว่าโชคดีกว่าหลายๆ ประเทศ เนื่องจากเราเดินทางมาเก็บตัวก่อนชาติอื่นๆ ยกเว้นเจ้าภาพเกาหลีใต้ นักกีฬาของไทยจึงมีโอกาสนำม้าลงทดสอบสนามแข่งขันจริงช่วงวันเสาร์และอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่หลังจากนั้นเจ้าภาพและเจ้าหน้าที่สนามจะห้ามฝึกซ้อมแบบแข่งจริง เพื่อรักษาสภาพสนาม เพียงแต่เปิดโอกาสให้นักกีฬานำม้าเข้ามาขี่เพื่อปรับสภาพม้า

"เราต้องนำม้าเข้ามาสนามแข่งให้บ่อยครั้งมากที่สุด เพราะม้าจะมีความอ่อนไหวมากถ้าม้าไม่คุ้นชินกับสถานที่แข่งขัน เพราะทุกอย่างภายในสนามอาจจะเป็นอุปสรรคต่อม้า ทั้งธงชาติประเทศต่างๆ ธงประดับสนาม กระจก เงา หรือกระจกสะท้อนต่อแสง สิ่งเหล่านี้ม้าแข่งต้องได้เห็น ถ้าไม่ได้เห็นเมื่อถึงวันแข่งจริง ม้าอาจรู้สึกกังวล ตกใจเพราะตื่นสนามและสภาพแวดล้อมได้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลการแข่งขันของนักกีฬา รวมถึงอาจเป็นอันตรายต่อนักกีฬาขี่ม้าได้" นายวินิจกล่าว

นายวินิจกล่าวอีกว่า ส่วนผลงานในการแข่งขันของนักกีฬาไทย ลึกๆ แล้วตั้งความหวังไว้ที่ "ผู้พันแซม"พ.อ.เฟื่องวิชชุ์ อนิรุทธเทวา ประเภทอีเวนติ้ง ซึ่งมีผลงานระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ มีประสบ การณ์มากมายหลายสนามแข่ง ส่วนประเภทเดรสซาจและจัมปิ้ง เราก็ยังแอบหวังอยู่ลึกๆ

นายวินิจกล่าวว่า พระองค์หญิงท่านทรงตั้งใจแน่วแน่ ทรงฝึกซ้อมอย่างหนักและต่อเนื่องมาตลอด 5-6 เดือน การแข่งขันครั้งนี้มีมาตรฐานสูง ไม่เหมือนซีเกมส์ที่ประเทศ เมียนมาร์ ทัวร์นาเมนต์นั้นจึงไม่สามารถวัดผลอะไรได้เลย สำหรับประเภทเดรสซาจ เราได้โค้ชระดับยุโรปมาเทรนนิ่ง มาฝึกแท็กติก ด้านต่างๆ จึงทำให้พระองค์หญิงและนักกีฬาไทยมีพัฒนาการการขี่ม้าได้ดียิ่งขึ้น ขณะนี้พระองค์หญิงและม้าทรงของพระองค์พร้อมลงแข่งขันแล้ว

"ที่ปลาบปลื้มปีติยินดี และประทับใจต่อเหล่านักกีฬาไทย และนักกีฬาต่างชาติมากที่สุดคือ พระองค์หญิงทรงปฏิบัติพระองค์เหมือนนักกีฬาทุกคนที่เข้าร่วมการแข่งขันอินชอนเกมส์ครั้งนี้ พระองค์หญิงประทับยังหมู่บ้านนักกีฬาเหมือนทุกคน ทั้งห้องพัก ห้องนอน ห้องน้ำ ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนส่วนใดๆ ทั้งสิ้น ภายในห้องไม่มีเครื่องปรับอากาศ ใช้พัดลมเหมือนกับทุกห้อง ทั้งยังเสวยอาหารที่นักกีฬาทุกคนทาน ทรงอยู่ภายในพื้นที่หมู่บ้านนักกีฬา จุดนี้สร้างขวัญและกำลังใจต่อเจ้าหน้าที่และนักกีฬาไทยทุกคน เพราะนี่คือสปิริตอินชอน แคมเปญของนักกีฬาขี่ม้า และนักกีฬาไทย ทุกคน" ผู้จัดการทีมขี่ม้ากล่าว