WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

วันที่ 07 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8622 ข่าวสดรายวัน


กังหันลิ่วตัดฟ้าขาว ซูฮกโค้ช เปลี่ยนโกล์เซฟโทษ 
เหนียวหนึบ4-3 เขี่ย'คอสตาริกา' เมสซี่ปลื้มพาทีม เชือด'เบลเยียม' เผยเนย์มาร์ร่ำไห้ หวั่นแขวนสตั๊ด


ติดเซฟ- ทิม ครูล นายทวารฮอลแลนด์ถูกเปลี่ยนตัวลงมาช่วงดวลจุดโทษตัดสิน โชว์ ซูเปอร์เซฟลูกยิงไมเคิล อูมานญ่า นักเตะคอสตาริกา ช่วยให้ทัพกังหันสีส้มชนะ 4-3 ผ่านเข้าไปตัดเชือกกับอาร์เจนตินา

      ฮอลแลนด์-คอสตาริกา สู้กันจนถึงฎีกายิงจุดโทษ ซูฮกแผนโค้ชอัศวินสีส้มตัดสินใจเปลี่ยนเอา "ทิม ครูล" โกล์

      มือหนึบทำหน้าที่โชว์เหนียวเซฟเอาชนะไป 4-3 ส่วนอาร์เจนตินาเฉือนหวิวเบลเยียม 1-0 เข้าไปเตะรอบรองฯ กับกังหัน ด้านโค้ชฟ้าขาวชมเมสซี่ฝีเท้าสุดยอดแม้จะยิงประตูไม่ได้ในนัดนี้ เปิดสถิติเยอรมนีพบกับแซมบ้า เผยบราซิลชนะถึง 12 ครั้งข่มอินทรีเหล็ก แต่นัดนี้ไม่มี ติอาโก้ ซิลวา กัปตันโดนโทษแบน โค้ชใช้ 3 กองกลางตัวรุก วิลเลี่ยน, ออสการ์, ฮัล์ก วางเฟร็ดศูนย์หน้าแทนเนย์มาร์ ขณะที่อินทรีเหล็กฟอร์มขี่ โค้ชเลิฟมีขุมกำลังให้ใช้เหลือเฟือ ขาดเพียงชโคดราน มุสตาฟี่ เท่านั้นที่เจ็บ

"เมสซี่-ดิ มาเรีย-อิกัวอิน"ยิงนำ

     การแข่งขันฟุตบอลโลก รอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่สนามเอสตาดิโอ นาซิ อองนาล มาเน่ การ์รินช่า กรุงบราซิเลีย ทีม "ฟ้าขาว"อาร์เจนตินา แชมป์โลก 2 สมัย พบกับทีม "ปีศาจแดงแห่งยุโรป"เบลเยียม

     สำหรับผลงานของอาร์เจนตินา ในการแข่งขันครั้งนี้เริ่มต้นด้วยการคว้าแชมป์กลุ่ม เอฟ ด้วยการชนะ 3 นัดรวด จากนั้นจะเฉือนชนะสวิตเซอร์แลนด์ ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0 ในรอบที่แล้ว ด้าน เบลเยียม ผลงานดีไม่แพ้กัน หลังคว้าแชมป์กลุ่ม เอฟ ด้วยการเก็บ 9 แต้มเต็ม ก่อนเฉือนชนะสหรัฐช่วงต่อเวลาพิเศษ 2-1 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

     เริ่มครึ่งแรก ทั้งสองทีมเปิดเกมบุกใส่กันตั้งแต่นาที ก่อนที่ทีม "ทีมฟ้าขาว" จะมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ตั้งแต่นาที 8 จากจังหวะที่ ลิโอเนล เมสซี่ เลี้ยงหลบผู้เล่นเบลเยียมสองคน ก่อนจ่ายต่อให้ อังเคล ดิ มาเรีย หลอกหนึ่งจังหวะแล้วผ่านบอลเข้ากลาง บอลแฉลบกองหนังเบลเยียม เข้าทาง กอนซาโล่ อิกัวอิน ตวัดตามน้ำบอลพุ่งเสียบมุมเข้าไปอย่างสวยงาม

เบลเยียมบุกหนัก-พ่ายหวิว1-0

      หลังเสียประตูไปก่อน ทีม "ปีศาจแดงแห่งยุโรป" เดินเครื่องบุกแหลกหวังตีเสมอทันที และมาได้โอกาสลุ้นประตู เควิน เดอ บรุยน์ ได้โอกาสซัดด้วยเท้าซ้ายจากหน้าเขตโทษ เซอร์จิโอ โรเมโร่ ต้องออกแรงเซฟ ก่อนที่กองหลังอาร์เจนตินาจะช่วยกันเคลียร์ออกไปได้ ในนาที 26

    นาที 32 ทีมฟ้าขาวต้องพบกับข่าวร้าย เมื่อ อังเคล ดิ มาเรีย ได้รับบาดเจ็บจนต้องเปลี่ยนตัวออกไป โดยส่ง เอ็นโซ่ เปเรซ ลงสนามแทน 

     ท้ายครึ่งแรก เบลเยียมพลาดโอกาสทองอย่างน่าเสียดาย แยน แฟร์ตองเก้น เปิดบอลเข้ากลาง เควิน มิรัลลาส โฉบตัดหน้ากองหลังอาร์เจนตินา ขึ้นโหม่งแต่บอลเฉี่ยวเสาไปนิดเดียว ในนาที 42 ก่อนจะจบครึ่งแรกด้วยการขึ้นนำ 1-0 ของทีมจากอเมริกาใต้

      ครึ่งหลัง เบลเยียม ยังคงเป็นฝ่ายที่เดินเกมรุกเข้าใส่ และเกือบได้ประตูจากจังหวะที่ แยน แฟร์ตองเก้น เปิดบอลไปหน้าประตู มารูยาน เฟลไลนี่ โถมขึ้นโหม่ง แต่บอลข้ามคานออกไปอย่างหวุดหวิด ในนาที 60

      ช่วง 10 นาทีสุดท้าย เบลเยียมดาหน้าบุกอย่างหนักหวังตีเสมอต่อชีวิต และมีโอกาสจบสกอร์หลายครั้งแต่ไม่คมพอ จบเกม อาร์เจนตินา เฉือนชนะ เบลเยียม 1-0 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ พบกับ ฮอลแลนด์

"กังหัน-กล้วยหอม"เตะมันหยด

     ขณะที่เกมอีกคู่ ที่สนามอารีน่า ฟอนเต้ โนว่า เมืองซัลวาดอร์ เป็นการพบกันระหว่าง "กังหันสีส้ม"ฮอลแลนด์ ทีมดังจากยุโรป พบกับ "กล้วยหอม"คอสตาริกา จากโซนคอนคาเคฟ

     เส้นทางที่ผ่านมาของทั้งคู่ ทีม "กังหันสีส้ม" คว้าแชมป์กลุ่ม บี ด้วยการชนะ 3 นัดรวด ก่อนเอาชนะ เม็กซิโก 2-1 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ด้านทีม "กล้วยหอม" คว้าแชมป์ ดี เก็บได้ 7 แต้ม จากการชนะ อุรุกวัย และ อิตาลี ก่อนจะเสมออังกฤษ ในนัดสุดท้าย ส่วนรอบที่ผ่านมา เอาชนะกรีซ ในการดวลจุดโทษ 5-3 หลังเสมอกันช่วง 90 และ 120 นาที 1-1


เจ้าภาพ- หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ กุนซือบราซิล ติวเข้มนักเตะแซมบ้า ระหว่างฝึกซ้อมเตรียมฟาดแข้งรอบรองชนะเลิศกับเยอรมนี ขณะที่เนย์มาร์ ศูนย์หน้าตัวเก่งถูกส่งขึ้นฮ.กลับไปรักษาอาการกระดูกสันหลังร้าวที่บ้านเกิด

     เกมนี้ ฮอลแลนด์ ไม่สามารถใช้งาน ไนเจล เดอ ยอง ที่มีอาการบาดเจ็บจากรอบที่แล้ว จนต้องปิดฉากฟุตบอลโลกก่อนกำหนด ขณะที่คอสตาริกา ไม่มี ออสการ์ ดูอาร์เต้ ที่ติดโทษแบน

      เกมในครึ่งแรก ฮอลแลนด์เป็นฝ่ายครองเกมได้มากกว่า และเกือบขึ้นนำ ในนาที 21 จากจังหวะที่ เมมฟิส เดปาย จ่ายบอลเข้าเขตโทษ ให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ได้ยิงเหน่งๆ แต่ เคย์เลอร์ นาบาส นายด่านคอสตาริกา ยังใช้ขาเซฟไว้ได้

ต่อเวลา-เล่นกัน 120 นาทีเต็ม

      นาที 38 ทีม "กังหันสีส้ม" ได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกระยะ 29 หลา เวสลีย์ สไนจ์เดอร์ ปั่นพ้นกำแพงบอลกำลังจะเสียบเสา แต่เคย์เลอร์ นาบาส ซูเปอร์เซฟบินปัดทิ้งได้เยี่ยม ก่อนจบครึ่งแรกด้วยการเสมอกัน 0-0

      ครึ่งหลัง ทีมดังจากยุโรป ยังเป็นฝ่ายที่ทำเกมรุกได้มากกว่า และเกือบได้ประตูขึ้นนำ นาที 81 เวสลีย์ สไนจ์เดอร์ ได้โอกาสปั่นฟรีคิกอีกครั้ง แต่บอลพุ่งชนเสาแบบน่าเสียดาย 

      นาที 90 ฮอลแลนด์พลาดได้ประตูอย่างเหลือเชื่อ จากจังหวะชุลมุนหน้าประตู ก่อนที่ ฟาน เพอร์ซี่ ได้ซัดแฉลบผู้เล่นคอสตาริกา แต่เยลต์ซิน เตเฮด้า สกัดจากปากประตูบอลชนคานอย่างเหลือเชื่อ จบ 90 นาที ทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้ ทำให้ต้องแข่งขันกันต่ออีก 30 นาที ช่วงต่อเวลาพิเศษ

     ครึ่งแรกของช่วงต่อเวลาพิเศษ ทั้งสองทีมยังยิงประตูกันไม่ได้ ก่อนที่ฮอลแลนด์จะพลาดโอกาสได้ประตูชัยอย่างน่าเสียดาย ในนาที 119 เวสลีย์ สไนจ์เดอร์ ซัดจากหน้าเขตโทษ แต่บอลไปชนคานอย่างจัง

       นาที 120 ฮอลแลนด์ เตรียมรับมือสำหรับการดวลจุดโทษ ส่ง ทิม ครูล ลงมาเฝ้าเสาแทน ยาสเปอร์ ซิลเลสเซน จบ 120 นาที ยังเสมอกัน 0-0 ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ และเป็นเกมที่ 3 ในศึกฟุตบอลโลกหนนี้ที่ต้องตัดสินถึงขั้นฎีกา

เตะโทษ-"ทิม ครูล"เซฟชัย4-3

      เริ่มการดวลจุดโทษคอสตาริกาเป็นฝ่ายยิงก่อน โดยคนแรกของทั้งสองทีมไม่พลาด ทำให้เสมอกัน 1-1 ก่อนที่ ไบรอัน รูอิซ คนที่ 2 ของทีมกล้วยหอมจะยิงไปติดเซฟ ของทิม ครูล และอาร์เยน ร็อบเบน สังหารไม่พลาด ฮอลแลนด์ นำ 2-1 หลังจากนั้นทั้งสองทีมไม่มีใครสังหารพลาด ฮอลแลนด์ นำ 4-3

      ทำให้ไมเคิล อูมานญ่า คนที่ 5 ของคอสตาริกา ต้องยิงเข้าสถานเดียวเพื่อยื้อชีวิต อูมานญ่า กดด้วยเท้าขวาไปทางขวามือ แต่ ทิม ครูล พุ่งถูกทางและปัดทิ้งได้ ทำให้ฮอลแลนด์ชนะการดวลจุดโทษไปในที่สุด 4-3 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปพบ อาร์เจนตินา โดย จะเตะกันที่สนามอารีน่า เด เซาเปาโล เมืองเซาเปาโล ในวันที่ 9 ก.ค.

บราซิลไร้เนย์มาร์-ติอาโก้บดเบียร์

     ส่วนความพร้อมการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย 2014 ที่ประเทศบราซิล ประจำวันที่ 8 ก.ค. ตามเวลาประเทศไทย "แซมบ้า"บราซิล เจ้าภาพ พบกับ "อินทรีเหล็ก"เยอรมนี เริ่มในเวลา 03.00 น.ของวันพุธ ที่สนามเอสตาดิโอ มิเนเรา เมืองเบโล ฮอริซอนเต้ 

       เส้นทางที่ผ่านมา "แซมบ้า" รอบแบ่งกลุ่มชนะโครเอเชีย 3-1 เสมอเม็กซิโก 0-0 ชนะแคเมอรูน 4-1 เก็บไป 7 คะแนน เป็นแชมป์กลุ่มเอ รอบ 16 ทีมสุดท้ายเสมอชิลีใน 90 นาที และ 120 นาที 1-1 ก่อนชนะดวลจุดโทษ 3-2 รอบก่อนรองชนะเลิศชนะโคลัมเบีย 2-1 ขณะที่ "อินทรีเหล็ก" รอบแบ่งกลุ่มถล่มโปรตุเกส 4-0 เสมอกานา 2-2 ชนะสหรัฐอเมริกา 1-0 เก็บได้ 7 คะแนน เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มจี รอบ 16 ทีมสุดท้ายเสมอแอลจีเรียใน 90 นาที 0-0 ก่อนจะชนะในช่วงต่อเวลา 2-1 รอบก่อนรองชนะเลิศชนะฝรั่งเศส 1-0


ลีลาเทพ- ลิโอเนล เมสซี่ กัปตันทีมอาร์เจนตินา ปั่นฟรีคิกข้ามกำแพงทีมเบลเยียมเกือบเป็นประตู ในศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบก่อนรองชนะเลิศ จบเกมนักเตะฟ้าขาวเฉือนชนะ 1-0 เข้าไป ตัดเชือกกับฮอลแลนด์

      ความพร้อมก่อนลงสนาม "แซมบ้า" จะไม่มีเนย์มาร์ กองหน้าดาวซัลโวประจำทีมที่ยิงไปแล้ว 4 ประตู เนื่องจากบาดเจ็บจนต้องบอกลาฟุตบอลโลกหนนี้ไปแล้ว รวมถึงติอาโก้ ซิลวา ที่ติดโทษแบน แต่จะได้หลุยส์ กุสตาโว่ กองกลางตัวรับพ้นโทษกลับมาช่วยทีมอีกครั้ง

เผยสถิติแซมบ้าข่ม-ชนะ 12 ครั้ง

      คาดว่าใช้ระบบ 4-2-3-1 ฮูลิโอ เซซาร์ ผู้รักษาประตู กองหลังประกอบด้วย ดานี่ อัลเวส, ดานเต้, ดาวิด ลุยซ์, มาร์เซโล่ คู่กลางรับ เฟอร์นันดินโญ่ ประสานงานกับ หลุยส์ กุสตาโว่ กลางรุกใช้วิลเลี่ยน, ออสการ์, ฮัล์ก โดยมีเฟร็ดเป็นศูนย์หน้า

     ด้าน "อินทรีเหล็ก" จะไม่มีชโคดราน มุสตาฟี่ ที่บาดเจ็บหมดสิทธิ์ลงเล่นในช่วงที่เหลือของบอลโลกครั้งนี้ และต้องเช็กความฟิตลูคัส โพโดลสกี้ 

      คาดว่าใช้แผนการเล่น 4-3-3 มานูเอล นอยเออร์ ผู้รักษาประตู กองหลังใช้ ฟิลิปป์ ลาห์ม, เฌอโรม บัวเต็ง, มัตส์ ฮุมเมิลส์, เบเนดิกต์ โฮเวเดส กองกลาง บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, ซามี่ เคดิร่า, โทนี่ โครส ส่วนแดนหน้าเป็นการประสานงานกันระหว่างเมซุต โอซิล, มาริโอ เกิตเซ่, โธมัส มุลเลอร์

      คู่นี้เคยเจอกันมา 21 ครั้ง บราซิลเหนือกว่าชนะ 12 ครั้ง เสมอกัน 5 ครั้ง เยอรมนีชนะ 4 ครั้ง หนล่าสุดเจอกันในเกมกระชับมิตรเมื่อปี 2011 เยอรมนีชนะ 3-2

โค้ชฟ้าขาวปลื้มฟอร์ม"เมสซี่"

      เบื้องหลังชัยชนะของอาร์เจนตินา อังเคล ดิ มาเรีย กองกลางวัย 26 ปี ได้รับ บาดเจ็บบริเวณต้นขา ต้องหามออกจาก สนาม เนื่องจากโดนเตะที่หน้าขา ล่าสุดสื่อในอาร์เจนตินาระบุว่า ดิ มาเรีย จะหมดสิทธิ์ลงเล่นฟุตบอลโลกครั้งนี้แน่นอน 

      ด้านอเลฮานโดร ซาเบญ่า กุนซือทีมอาร์เจนตินา หวังว่าลูกทีมรายนี้จะเจ็บไม่ หนักมาก

     "ผมวังว่ากรณีของอังเคล ดิ มาเรีย จะไม่ร้ายแรง" 

      นอกจากนี้ ซาเบญ่ายังชื่นชมฟอร์มการเล่นของลิโอเนล เมสซี่ กองหน้ากัปตันทีมอาร์เจนตินา ที่เล่นได้เด่นอีกนัด โดยกล่าวว่า "แม้นัดนี้จะยิงประตูไม่ได้ แต่การครองบอลที่ดีและดึงคู่แข่ง 3-4 คนตามประกบ ทำให้เพื่อนร่วมทีมมีพื้นที่ ทุกครั้งที่เขาวิ่งหาพื้นที่ เป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังของทีมเรา และจะสร้างปัญหาให้กับคู่แข่งอย่างมาก นักเตะอย่างเมสซี่แทบไม่เสียบอลเลย นั่นคือเป็นเหมือนน้ำในทะเลทราย วันนี้เมื่อเกมดูฝืด แต่ทุกครั้งที่เมสซี่ได้บอล เขาจะช่วยให้เราสดชื่นด้วยอากาศบริสุทธิ์"

      ด้านเมสซี่ได้ชื่นชมฟอร์มการเล่นของเพื่อนร่วมทีม "ฟ้าขาว" จนนำพาทีมเข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 24 ปี โดยกล่าวว่า "มหัศจรรย์จริงๆ พวกเรารู้ดีว่ามันยากแน่ในเกมเจอกับเบลเยียม แต่เราก็ทำได้สำเร็จ นานมาแล้วที่เราไม่เคยไปได้ถึงรอบรองเลย ครั้งนี้เป็นการก้าวข้ามได้สำเร็จ"

"ครูล"เผยเคล็ดลับเซฟลูกโทษ

     หลังเกมการแข่งขันระหว่างฮอลแลนด์ กับคอสตาริกา หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือทีมชาติฮอลแลนด์ กล่าวถึงการส่งทิม ครูล ลงไปเซฟจุดโทษว่า "พวกเราคุยกับครูลเกี่ยวกับการยิงจุดโทษของนักเตะคอสตาริกา ดังนั้นเขาจึงเตรียมพร้อม ถือว่าโชคดีที่ประสบความสำเร็จ แต่หากเขาเซฟไม่ได้ ก็ต้องถือว่าผมตัดสินใจผิดพลาด นี่เป็นเรื่องปกติของฟุตบอลความสำเร็จระดับสูงของวงการกีฬา โดยเฉพาะฟุตบอลโลกนี้ ตัดสินกันด้วยสิ่งบางๆ บางครั้งก็เป็นเรื่องของโชค บางครั้งก็มาจากจิตสัมผัส" กุนซือทีมชาติฮอลแลนด์ ให้สัมภาษณ์กับน.ส.พ.เดอ เทเลกราฟ ของฮอลแลนด์

     ด้านทิม ครูล ผู้รักษาประตูจอมเซฟประตู ฮีโร่ของทีมชาติฮอลแลนด์ กล่าวว่า ตนศึกษาการยิงจุดโทษของนักเตะคอสตาริกามาอย่างดี 

     ขณะที่สื่อรายงานว่า ผู้รักษาประตูวัย 26 ปีจากนิวคาสเซิลรายนี้ ฝึกซ้อมการป้องกันลูกจุดโทษเป็นพิเศษนานถึง 7 สัปดาห์ กับโค้ชทีมชาติ ทำให้มีความมั่นใจอย่างมากขณะที่ถูกเปลี่ยนตัวลงไปเพื่อทำหน้าที่ในช่วงยิงลูกโทษตัดสิน 

     "นี่ไม่ใช่เรื่องปกติ เพราะคุณนั่งเป็นตัวสำรองมาตลอดทัวร์นาเมนต์ ก่อนจะมีโอกาสลงสนาม และเซฟจุดโทษได้ ผมไม่รู้จะพูดอย่างไร มันเหมือนความฝัน และเหลือเชื่อมากที่เราผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ" 

โค้ชกล้วยหอมชูลูกทีมสุดยอด

      ด้านเคย์เลอร์ นาบาส ผู้รักษาประตูของทีมคอสตาริกา ระบุแม้ว่าจะตกรอบ แต่ก็ทำให้ชาวคอสตาริกาภาคภูมิใจ

     "เราแพ้ด้วยการยิงจุดโทษ และต้องกลับ แต่เราสามารถยืดอกได้อย่างภาคภูมิใจกับการผ่านเข้าถึงรอบ 8 ทีมได้สำเร็จ แม้จะทำใจลำบากที่ต้องตกรอบ แต่ก็นี่แหละชีวิต เราไม่สามารถตำหนิใครได้"

      เช่นเดียวกับ ฮอร์เก้ หลุยส์ ปินโต้ กุนซือคอสตาริกากล่าวยกย่องฟอร์มของนักเตะที่ทุ่มเทและทำงานอย่างหนักจนป่านเข้ามารอบ 8 ทีมได้

      "พวกเราไม่ใช่ยักษ์ใหญ่ของวงการฟุตบอลโลก แต่ได้ทำสิ่งที่สำคัญที่สุด เมื่อต้องยิงจุดโทษตัดสิน คุณต้องเข้าใจนักเตะ ความกดดันและสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น แต่พวกเขาก็ทำงานได้อย่างสุดยอด" โค้ชคอสตาริกากล่าว

ฟีฟ่าจ่อฟ้องกองหลังโคลัมเบีย

     ด้านสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่าเตรียมดำเนินการฟ้องร้องกับฮวน ซูนิก้า กองหลังของโคลัมเบียจากการที่ทำให้เนย์มาร์กระดูกหลังหัก 

     เดเลีย ฟิชเชอร์ โฆษกของฟีฟ่ากล่าวว่า "คณะกรรมการด้านวินัยของฟีฟ่ากำลังวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับ ทั้งวิดีโอ และรายงานของผู้ตัดสิน จากนั้นจะตัดสินใจอีกครั้งว่าจะดำเนินการฟ้องร้องหรือไม่"

     ขณะที่ซูนิก้า ปฏิเสธว่าไม่ได้เจตนาจะทำให้เนย์มาร์บาดเจ็บหนัก 

    "เมื่ออยู่ในสนามผมก็จะทำในสิ่งที่ต้องทำ และปกป้องประเทศของผม แต่ไม่ได้ตั้งใจทำให้ใครบาดเจ็บ ในเกมนี้ทุกคนต้องการชนะ ดังนั้นเกมจึงดุเดือด"

เผยเนย์มาร์ร่ำไห้-เมสซี่ให้กำลังใจ

     ด้านโฮเซ่ หลุยซ์ รันโก้ แพทย์ประจำทีมชาติบราซิล กล่าวเรียกร้องให้ผู้ตัดสินปกป้องนักเตะให้มากกว่านี้ โดยระบุว่า เนย์มาร์ร้องไห้ตลอด หลังบาดเจ็บหนัก และหวั่นจะทำให้ต้องยุติอาชีพการค้าแข้ง 

     ล่าสุด เนย์มาร์ต้องพักนานราว 3-6 สัปดาห์ 

     ด้านลิโอเนล เมสซี่ กองหน้ากัปตันทีมอาร์เจนตินา อวยพรให้เนย์มาร์ กองหน้า ทีมชาติบราซิล ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมสโมสร บาร์เซโลน่าหายจากอาการบาดเจ็บโดยเร็ว 

     เมสซี่โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมภาพถ่ายที่สวมเสื้อสโมสรบาร์เซโลน่าคู่กัน ด้วยข้อความว่า "เนย์มาร์ ผมหวังว่าคุณจะหายบาดเจ็บโดยเร็วที่สุด" 

     นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ที่เมืองซาน โฮเซ่ มีชายคนหนึ่งถูกแทงด้วยมีดเข้าที่กลางหลัง หลังจบเกมที่ ฮอลแลนด์ เอาชนะ คอสตาริกา 4-3 ด้วยการดวลจุดโทษ หลังเสมอกันในเวลา 0-0 ในศึกฟุตบอลโลกรอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจบราซิลได้เข้าช่วยเหลือและให้การปฐมพยาบาลชายคนดังกล่าวแล้ว

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!