เมื่อเร็วๆนี้ เนเธอร์แลนด์ได้ประกาศว่า ภายในปี 2015 น้ำมันปาล์มที่จำหน่ายภายในประเทศจะต้องเป็นน้ำมันปาล์มที่มีการผลิตอย่างยั่งยืนเท่านั้น ซึ่งนับเป็นประเทศแรกในโลกที่กำหนดเช่นนี้ และเชื่อว่าจะกดดันให้ประเทศอื่นๆ ในสหภาพยุโรปหรือ EU ดำเนินการตามเช่นกัน นอกจากนี้ออสเตรเลียก็เป็นอีกประเทศหนึ่งที่กำลังให้ความสนใจในเรื่องนี้ โดยมีข้อเสนอจากสมาชิกรัฐสภาให้ติดฉลากบนผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มเพื่อระบุว่าเป็นน้ำมันปาล์มที่มาจากการผลิตที่ยั่งยืน
ก่อนหน้านี้ บริษัทอาหารและร้านอาหาร fast-food ได้แก่ Nestle, Unilever, Cargill, Cadbury, General Mills, Kraft Foods และ Burger King ได้ทยอยประกาศให้คำมั่นว่าจะยุติใช้น้ำมันปาล์มจากแหล่งผลิตที่ไม่มีความยั่งยืน โดยเฉพาะจากแหล่งผลิตที่มีการตัดไม้ทำลายป่าเพื่อปลูกปาล์มน้ำมัน เช่น เกาะสุมาตราและเกาะบอร์เนียว และหลายฝ่ายยังเชื่อว่า KFC, Pizza Hut และ Dunkin’s Donuts จะต้องประกาศยุติการใช้น้ำมันปาล์มจากจากแหล่งผลิตที่ไม่มีความยั่งยืนเช่นเดียวกัน
นอกจากกรณีน้ำมันปาล์มข้างต้นนี้แล้ว ผลิตภัณฑ์กระดาษก็มีการดำเนินการในลักษณะเดียวกันหลายบริษัท เช่น Carrefour, Tesco, Office Depot, Ricoh, Gucciและ Kraft Foods ได้ประกาศยุติการใช้กระดาษจากแหล่งผลิตที่มีการตัดไม้ทำลายป่าในเกาะสุมาตราและเกาะบอร์เนียว แล้ว
'ความยั่งยืน'กำลังจะเป็นปัจจัยสำคัญของการผลิตและการค้าสินค้าและบริการในโลกปัจจุบัน
|