สหประชาชาติได้ออกรายงานว่า ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา การบริโภคอาหารทะเลของโลกเพิ่มขึ้น 2 เท่า และคาดว่าในอีก 40 ปีข้างหน้า หากไม่มีการดำเนินการใดๆ ทรัพยากรปลาของโลกจะหมดไป สหประชาชาติจึงได้เสนอให้จดทะเบียนชาวประมงและยุติการประมงที่ผิดกฎหมาย เพื่อขจัดการทำประมงเกินขนาด (Over Fishing) อันเป็นปัญหาใหญ่ของการจัดการประมงของโลกให้มีความยั่งยืน

       จากสภาพการณ์ดังกล่าวมีผลให้เกิดกระแสการผลิต/การจัดหาอาหารทะเลที่มีการผลิตอย่างยั่งยืน (Sustainable seafood) ในภูมิภาคต่างๆเพิ่มมากขึ้น  เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำและจัดการการประมงอย่างยั่งยืน ได้แก่

    •    ห้างค้าปลีก เช่น ห้าง Walmart และห้างSupervalu ในสหรัฐฯ, ห้าง Coles และห้าง Woolworths ในออสเตรเลีย 
    •    ผู้ผลิตอาหาร เช่น Mitsubishi (เจ้าของปลาทูน่ากระป๋อง Princes), Mars Petcare
    •    และอื่นๆ เช่น Sodexo และ Mc Donald’s 

      ปรากฎการณ์อันเป็นกระแสเช่นนี้ย่อมสร้างผลกระทบต่อการทำประมงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ธุรกิจประมงจำเป็นต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับกระแส “การทำประมงอย่างยั่งยืน” มิฉะนั้น อาจจะประสบกับแรงกดดันให้ต้องทำประมงอย่างยั่งยืนทั้งจากกลุ่มผู้บริโภค หรือองค์กรภาคเอกชน หรือภาครัฐ หรือองค์กรในห่วงโซ่อุปทานของตนเองก็ตาม