WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

กกร.เสนอ 5 แนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ปั๊มจีดีพีครึ่งปีหลังโต 4.2%

     แนวหน้า : กกร.เตรียมเสนอแนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 5 เรื่อง 14 ประเด็นหลักเข้าที่ประชุมกรอ. มั่นใจจะมีส่วนสำคัญทำให้จีดีพีครึ่งปีหลังโต 4.2% เพราะรวมมาตรการครอบคลุมทั้งส่งเสริมการค้า อุตสาหกรรม ท่องเที่ยว พัฒนาโครงข่ายคมนาคม ขจัดอุปสรรคการประกอบธุรกิจ

      นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานสมาคมธนาคารไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.)ที่ประกอบด้วย สมาคมธนาคารไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.) เป?ดเผยว่ากกร.และอีก 2 องค์กรภาคเอกชนได้แก่ สภาธุรกิจท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสภาธุรกิจตลาดทุนไทยจะเสนอแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 5 เรื่อง 14 ประเด็น เพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน(กรอ.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานการประชุมครั้งแรกในวันที่ 16 กรกฎาคมนี้ ทั้งนี้ เพื่อให้เศรษฐกิจไทยหรือผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ในช่วงครึ่งป?หลังสามารถขยายตัวได้ 4.2% และเฉลี่ยทั้งป?จะเติบโตได้ 2%

     “เราประเมินแล้วเห็นว่าภาวะเศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและมีแนวโน้มดีขึ้นหลังการเมืองมีความชัดเจน การส่งออกที่คาดว่าทั้งป?จะโต 3-5% ทำให้เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยครึ่งป?หลังจะขยายตัวได้ 4.2% และทั้งปีจะโต 2% ต่อเนื่องถึงปี 2558 คาดว่าจะโต 3.5-4.5% มาตรการที่เสนอจะมีส่วนสำคัญในการผลักดันแต่ป?นี้คงจะไม่ได้มากไปกว่านี้เพราะครึ่งป?แรกเศรษฐกิจเราติดลบ 1%” นายบุญทักษ์กล่าว

     สำหรับ 5 เรื่อง 14 ประเด็นได้แก่ 1.ข้อเสนอด้านการส่งเสริมการค้า และการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ แบ่งเป?น 5 ประเด็น คือขอให้ขยายเวลามาตรการสำหรับเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้, ขอให้แก้ไขป?ญหาการบริหารจัดการแรงงานแห่งชาติ, ส่งเสริมและอำนวยความสะดวกการค้าชายแดน, เร่งรัดเขตเศรษฐกิจพิเศษให้เกิดผลเป?นรูปธรรม และให้จัดตั้งคณะกรรมการวางโรดแมปสินค้าเกษตร อาหารและพลังงานทดแทน

    2.ข้อเสนอด้านการส่งเสริมอุตสาหกรรม 2 ประเด็น ได้แก่ โครงการคูปองนวัตกรรมเพื่อพัฒนาขีดความสามารถเอสเอ็มอีไปสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) ระยะที่ 2 (2557-2559) และการพัฒนาและปรับปรุงแก้ไขป?ญหาจากการวางและจัดทำผังเมือง

   3.ข้อเสนอด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว 2 ประเด็น ได้แก่ ขอให้ฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวระยะเร่งด่วน 1-3 เดือน ก่อนเข้าสู่เทศกาลท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่นและขอให้สนับสนุนบทบาทของคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ

       4.ข้อเสนอด้านการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ 3 ประเด็น ได้แก่ ขอให้ปรับแนวทางการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ของไทย ขอใช้กองทุนระบบสาธารณูปโภคเป็นทางเลือกในการระดมทุน และให้เร่งรัดการแก้ไขปัญหาน้ำภาคตะวันออก

      5.ข้อเสนอด้านการแก้ไขกฎระเบียบที่เป?นอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจ 2 ประเด็น คือ ขอให้ปรับปรุงและแก้ไขกฎหมายที่เป?นอุปสรรคและให้สนับสนุนงบประมาณในการขยายระดับการค้ำประกันความสูญเสียของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.)

    นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาพรวมการส่งออกไทยปีนี้น่าจะเติบโต 3-5% เนื่องจากสินค้าเกษตรสำคัญ เช่น ข้าว และน้ำตาลที่คาดว่าจะมีการส่งออกเพิ่มขึ้น หากไทยสามารถรักษาระดับค่าเงินบาทไว้ในช่วงครึ่งป?หลังไม่ให้ผันผวนและอยู่ในระดับไม่เกิน 33 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ก็จะมีผลดีต่อการส่งออกไทยในรูปของเงินบาทอย่างมาก

     นายสุพันธ์ มงคลสุธี ประธาน สอท.กล่าวว่าเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการคือ การขยายมาตรการสินเชื่อผ่อนปรนหรือ Solf loan สำหรับเขตเศรษฐกิจพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไปอีก 3 ป? คือตั้งแต่มกราคม 2558-ธันวาคม 2560 จากที่จะสิ้นสุดธันวาคม 2557 การปรับปรุงหลักเกณฑ์การออกวีซ่าและใบอนุญาตทำงานโดยแยกระหว่างนักธุรกิจและแรงงานต่างด้าว ส่งเสริมให้ไทยเป?นศูนย์กลางอาเซียน และจะเสนอขอยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่ากับจีนและไต้หวันเป?นระยะเวลา 1 ป? เป?นต้น

     “ส่วนกรณีที่คสช.จัดทำร่างธรรมนูญฉบับปกครองชั่วคราวถือเป?นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้นักลงทุนได้ เมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้จะส่งผลดีโดยรวมต่อเศรษฐกิจประเทศ” นายสุพันธ์กล่าว

     นายศักดิ์ชัย อุ่นจิตติกุล รองประธานสอท. กล่าวว่า สอท.ได้เสนอแผนพัฒนา SMEs ต่อที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม (เฉพาะกิจ) หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป?นประธานที่ได้เห็นด้วยกับแผนที่เสนอแนวทางการพัฒนาที่มีเป้าหมายเพิ่มรายได้และสัดส่วนในผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือ GDP ของ SMEs ให้ถึง 50% ของ GDP ประเทศ และส่งเสริมให้ SMEs ไทยก้าวสู่สากล สำหรับแผนพัฒนาแบ่งเป?น 3 ระยะได้แก่ ระยะสั้น (ภายใน 1 ป?) ยกระดับ SMEs ให้เป?นวาระแห่งชาติ ย้ายหน่วยงานหลักในการส่งเสริม SMEs ได้แก่ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.) จากกระทรวงอุตสาหกรรมมาสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อบูรณาการการส่งเสริม เป?นต้น

กกร.เสนอ 5 ข้อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ลดอุปสรรคการค้า-ลงทุน ชงกรอ.พิจารณา 16 ก.ค.นี้

     ไทยโพสต์ : สีลม * กกร.เตรียมเสนอ 5 เรื่องเร่งด่วนแก้ปัญหาเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว สู่ที่ประชุม กรอ. นัดแรก 16 ก.ค.2557 คาดจีดีพีไทยปี 2557 โต 2% ด้าน ส.อ.ท.หารือสภาพัฒน์ เตรียมสร้างศูนย์กลางบริหารเอสเอ็มอี พร้อมโอน สสว.เข้าสังกัดสำนักนายกฯ เพิ่มความคล่องตัวในการขับเคลื่อนกิจกรรมและนโยบาย คาด 2 ปีจีดีพีเอสเอ็มอีขึ้นได้ทัดเทียมนานาชาติ 50% จากปัจจุบัน 37%

     นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมร่วมภาคเอกชน 3 ฝ่าย (กกร.) ประกอบด้วยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาหอ การค้าไทย และสมาคมธนาคารไทยว่า ที่ประชุม กกร.มีมติจะ เสนอเรื่องเร่งด่วน 5 เรื่อง 14 ประเด็น สำหรับแก้ปัญหาอุปสรรค ทางเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว และการลงทุนภาคเอกชนทั้งส่วนกลางและภูมิภาค เพื่อนำ เข้าสู่ที่ประชุมคณะร่วมภาครัฐ และเอกชน (กรอ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน ในวันที่ 16 ก.ค.2557 นี้

   สำหรับ เรื่องเร่งด่วนที่ต้อง ดำเนินการ อาทิ การขยายมาตร การสินเชื่อผ่อนปรน (ซอฟต์โลน) สำหรับเขตเศรษฐกิจพิเศษเฉพาะกิจใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต่อไปอีก 3 ปี คือตั้งแต่ ม.ค.2558-ธ.ค.2560 จากที่จะสิ้นสุดในเดือน ธ.ค.2557 นอกจากต้องปรับปรุงหลักเกณฑ์การออกวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน เพื่อให้เกิดความสะดวกในกระบวนการต่ออายุใบอนุญาตทำงาน และส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางอาเซียน รวมทั้งจะเสนอขอยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่ากับจีนและไต้หวันเป็นระยะเวลา 1 ปี

    ส่วนการช่วยเหลือผู้ประ กอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) นั้น จะเสนอให้ขยายระดับการค้ำประกันความสูญเสียของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) โดยจัดสรรงบประมาณให้กับ บสย.เพื่อเพิ่มระดับการค้ำประกันจาก 18% เป็น 50% ทั้งนี้เพื่อช่วยให้เอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินทุนง่ายขึ้น ทั้งนี้หากสามารถปล่อยสินเชื่อให้เอสเอ็มอีได้ 165,000 ล้านบาท จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในครึ่งหลังปี 2557 ให้โตได้อีก 0.5% และเป็นแรงผลักดันให้เศรษฐ กิจในปี 2558 กลับสู่ศักยภาพได้เร็วขึ้น โดยเชื่อว่าจะสามารถเพิ่มรายได้และสัดส่วนผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของเอสเอ็มอีให้ถึง 50% ของจีดีพีทั้งประเทศ

   อย่างไรก็ตาม กกร.ยังหารือแนวโน้มเศรษฐกิจครึ่งหลังของปี 2557 ว่า มีแนวโน้มดีขึ้น โดยคาดการณ์ว่าจะเติบโตได้ 4.2% และทำให้จีดีพีทั้งปี 2557 เติบโตได้ 2% ขณะที่การส่งออกจะเติบโต 3-5% และภาคสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์จะขยายตัว 8-10% ส่วนเศรษฐกิจในปี 2558 คาดว่าจะขยายตัวเต็มศักยภาพที่ 3.5-4.5% ทั้งนี้เชื่อว่าสิ่งที่ กกร.เสนอจะทำให้การค้าการลงทุนถูกแก้ไขและเศรษฐกิจโตได้เร็วขึ้น และจะได้รับการตอบรับจาก กรอ.เป็นอย่างดี

    นายสุพันธ์ มงคลสุธี ประ ธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประ เทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ภาคเอกชนสนับสนุนให้ คสช.จัดทำ ร่างธรรมนูญฉบับปกครองชั่ว คราว ว่าเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้นักลงทุนได้ เมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้ ซึ่งถือส่งผลดีโดยรวมต่อเศรษฐกิจประเทศซึ่งขณะนี้ภาคเอกชนได้เข้าร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จัดทำโครงสร้างเอสเอ็มอีให้มีศูนย์กลางการบริหารเอสเอ็มอี พร้อมกันนี้กำลังจัดเตรียมให้ สสว.ย้ายไปอยู่ภายใต้สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี จากปัจจุบันอยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายด้านเอสเอ็มอีคล่องตัวมากขึ้น โดยปัจจุบันมีปลัดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมกันจัดทำโครงสร้างกันอยู่ เนื่องจากเอสเอ็มอีเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน อย่างไรก็ตาม คาดว่าหลังปรับโครงสร้างเสร็จ 2 ปี จะทำให้จีดีพีของเอสเอ็มอีเติบโตได้ 50% ของจีดีพีประเทศ จากปัจจุบันจีดีพีเอสเอ็มอีไทยโตแค่ 37% เท่านั้น.

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!