WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

 1อทยานราชภกด

เซียน'อ.'เผ่นฮ่องกง-พันหัวคิวราชภักดิ์ คืนแล้วส่วนต่าง 20 ล้าน ตร.ชี้ทหารไม่ร้องก็จบ

      เซียนพระ 'อ.' เผ่นแล้ว-บินหนีไปฮ่องกง พัวพันค่าหัวคิวอุทยานราชภักดิ์ เป็นเงิน 20 ล้าน ก่อนเรียกมาพูดคุย-คืนค่าหัวคิวให้มูลนิธิ ด้านตร.ยังไม่ขยายผลสอบอุทยานราชภักดิ์ เหตุไม่มีร้องทุกข์ แต่ถ้ามีร้องเข้ามาก็ต้องตรวจสอบตามขั้นตอน หากกองทัพไม่ร้องทุกข์คดีก็จบไป คาดสัปดาห์หน้ามีความชัดเจน เร่งสอบอีก 3 คดีแอบอ้างเบื้องสูง รวมถึงคดีของพ.อ.โจ้ด้วย ยังระดมติดตามล่าตัว ด้าน 'จักรทิพย์' สั่งกำชับทุกด่าน-หาเบาะแส 'พ.อ.'ให้ศรีวราห์ประสานขอข้อมูลปมหัวคิวอุทยานราชภักดิ์ ขณะที่บิ๊กติ๊กยัน'พล.ต.' ยื่นลาออกแล้ว ตั้งแต่ 5 พ.ย.-แต่อยู่ระหว่างการพิจารณา

วันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9115 ข่าวสดรายวัน

      จากกรณีเจ้าหน้าที่ออกหมายจับและคุมตัวกลุ่มผู้ต้องหาแอบอ้างเบื้องสูงไปเรียกรับผลประโยชน์ โดยอ้างโครงการสำคัญ นำโดยนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือหมอหยอง ก่อนคุมตัวไปคุมขังไว้ที่เรือนจำชั่วคราว แขวงถนนนครไชยศรี ภายในมณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) แต่หมอหยองมีอาการป่วยและ เสียชีวิต ขณะที่ศาลทหารออกหมายจับพ.อ.คชาชาต บุญดี หรือเสธ.โจ้ นายทหาร ฝ่ายเสนาธิการ ประจำกองทัพภาคที่ 3 ฐานแอบอ้างเบื้องสูงเรียกรับผลประโยชน์ ด้านพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และอดีตผบ.ทบ. รับมีค่าหัวคิวอุทยานราชภักดิ์ แต่จัดการแล้วด้วยการให้โรงหล่อบริจาคคืนกองทัพ ทุกอย่างจบด้วยความเรียบร้อย ตามที่เคยเสนอข่าวไปนั้น

ตร.ประสานขอข้อมูลราชภักดิ์

      สำหรับ ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 11 พ.ย. ที่สโมสรตำรวจ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีพ.อ.คชาชาต ผู้ต้องหาแอบอ้างเบื้องสูงเรียกรับผลประโยชน์ หลบหนีออกนอกประเทศผ่านด่านตรวจคน เข้าเมืองแม่สอด จ.ตาก ว่ายังไม่ทราบเรื่อง ยังไม่มีการลงรายละเอียดในส่วนของคดีเลย

      ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจากเกิดคดีแอบอ้างเบื้องสูง ด่านแม่สอดมีอะไรน่าเป็นห่วงหรือไม่ และกำชับด่านต่างๆ ให้ช่วยติดตามตัวพ.อ.คชาชาตหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า กำชับทุกด่านไปเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่เริ่มเกิดกรณีดังกล่าวในช่วงแรก ทุกคดีใหญ่เป็นหลักเลย ได้สั่งการไปที่สตม.หมดแล้วให้ระวัง

      เมื่อถามว่า ประเทศไทยกับประเทศพม่า มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า เอาเป็นว่าเราได้ คุยกันอยู่แล้ว

     เมื่อถามต่อว่า กรณีพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และอดีตผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์มีการเก็บค่าหัวคิวอุทยานราชภักดิ์ ขณะนี้ได้ประสานข้อมูลหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.รองผบ.ตร. คงจะประสานไป

ยังไม่สอบปมค่าหัวคิว

       ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต. ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ผบก.ปอศ. ในฐานะรองโฆษก ตร. แถลงถึงความคืบหน้าคดีแอบอ้างเบื้องสูงว่า ขณะนี้การดำเนินคดีกับกลุ่มแอบอ้างเบื้องสูงยังไม่มีการขยายผลไปถึงการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยตร.ดำเนินคดีเพียงกลุ่มของนายสุริยัน หรือหมอหยองเท่านั้น และล่าสุดได้รับคดีเพิ่มมาอีก 3 คดี ซึ่งเป็นคดีในกลุ่มแรกเช่นกัน

       ผู้สื่อข่าวถามว่า จำเป็นต้องเรียกพล.อ. อุดมเดช สีตบุตร มาให้ข้อมูลหรือไม่ เพราะท่านรู้ข้อมูลการจัดสร้างอุทยานฯ รองโฆษกตร. กล่าวว่า ตอนนี้ตำรวจยังไม่ได้รับการร้องทุกข์กล่าวโทษเกี่ยวกับกรณีการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ แต่หากมีผู้มาร้องทุกข์ก็ต้องตรวจสอบตามขั้นตอน ซึ่งคดีแบบนี้ต้องมีผู้มาร้องทุกข์กล่าวโทษ แต่ตอนนี้ยังไม่มี ถ้ากองทัพไม่ร้องทุกข์คดีก็จบไป อยากให้สื่อมวลชนใจเย็นๆ หากมีข้อมูลปรากฏก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายแน่นอน และหากพบผู้ต้องหาเพิ่มเติมก็ต้องสอบสวนขยายผล โดยคาดว่าในสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนแน่นอน

      เมื่อถามว่า ก่อนที่หมอหยองจะเสียชีวิต ตำรวจได้สอบปากคำถึงการจัดสร้างอุทยาน ราชภักดิ์หรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้ดำเนินการ ขณะนี้ตำรวจรับผิดชอบคดีในส่วนของคดีม.112 เท่านั้น

เร่งสอบอีก3คดี-พ.อ.โจ้ด้วย

      เมื่อถามถึงสำนวนที่ใกล้เสร็จสิ้นในส่วนของคดีม.112 ต้องสอบสวนอะไรเพิ่มเติม หรือไม่ รองโฆษกตร. กล่าวว่า จากนี้พนักงานสอบสวนคดีแอบอ้างเบื้องสูงต้องสอบสวน อีก 3 คดีที่ได้รับแจ้งเพิ่มเข้ามาเพิ่มเติม ในส่วนของพ.อ.คชาชาต หรือเสธ.โจ้ ซึ่งตอนนี้กำลังดำเนินการอยู่ใกล้เสร็จสิ้นแล้ว

     เมื่อถามว่า ผู้ต้องหาที่เสียชีวิตมีอุปสรรคต่อการสอบสวนหรือไม่ รองโฆษกตร. กล่าวว่า ไม่มีผลแต่อย่างใด โดยการเสนอสำนวนขึ้นมาที่พล.ต.อ.จักรทิพย์ ของพนักงานสอบสวนที่มีพล.ต.ท.ศรีวราห์ เป็นหัวหน้าชุดในวันที่ 12 พ.ย.นี้ เป็นการเสนอเพื่อขอใช้พนักงานสอบสวนชุดเดิมที่สอบสวนคดี ม.112 เนื่องจากมีอีก 3 คดีที่ได้รับมาเพิ่มเติม โดยเป็นคดีในกลุ่มเดียวกัน และตอนนี้กำลังสอบสวนเพิ่มเติมอยู่

      เมื่อถามต่อว่า ตามขั้นตอนกฎหมายตำรวจต้องไปขอให้ศาลจำหน่ายคดีในส่วนของผู้เสียชีวิตอย่างไร พล.ต.ต.ปิยะพันธ์กล่าวว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 อนุ 1 ระบุไว้ว่าคดีอาญาย่อมระงับไปด้วยความตายของผู้กระทำผิด ฉะนั้นคดีนี้ก็เป็นกระบวนการสอบสวนว่าผู้ต้องหาถึงแก่ความตายแล้วสำนวนจะจบอย่างไร

ติดตามล่าตัว"คชาชาต"

    เมื่อถามถึงความคืบหน้าการติดตามตัวพ.อ.คชาชาต พล.ต.ต.ปิยะพันธ์กล่าวว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวอยู่ เชื่อว่าจะสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องมาได้ เพราะคดีใหญ่ๆ ที่ผ่านมา เช่น คดีระเบิดแยกราชประสงค์ พล.ต.อ.จักรทิพย์ก็สามารถ จับ ผู้ต้องหามาจนได้ แต่ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าพ.อ.คชาชาตหนีไปที่ใด และไม่ทราบว่าเป็นไปตามกระแสข่าวว่าไปประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ ตอนนี้ส่งข้อมูลไปยังด่านตรวจคน เข้าเมืองทั่วประเทศให้ติดตามแล้ว

     เมื่อถามว่าหากพ.อ.คชาชาต หนีไปประเทศที่ไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน โอกาสได้ตัวจะน้อยลงหรือไม่ พล.ต.ต. ปิยะพันธ์กล่าวว่า เรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายเกี่ยวกับการประสานส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน

     เมื่อถามว่า ถ้าผู้ต้องหาหนีไปประเทศพม่าจะมีกฎหมายส่งตัวหรือไม่ รองโฆษกตร. กล่าวว่า มีเพียงคดีความมั่นคงบางเรื่อง แต่คดีม.112 ไม่มี ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่ประสานงานกับทางการพม่าแล้ว แต่ยังไม่ยืนยันว่า ผู้ต้องหาหนีไปพม่า ส่วนกระแสข่าวว่ามีบุคคลหน้าคล้ายพ.อ.คนหนึ่ง เดินทางออกไปที่ด่านแม่สอด จ.ตาก ก็ได้ตรวจสอบแล้ว แต่ยังไม่ปรากฏหลักฐาน ตำรวจทำตามขั้นตอนกฎหมายไม่ได้ล่าช้า

เมื่อถามว่าแสดงว่าหลักฐานการเดินทางออกนอกประเทศผ่านจุดตรวจสะพานมิตรภาพไทย-พม่า เมื่อเวลา 06.35 น. วันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา ของพ.อ.คชาชาติ เป็นของปลอม พล.ต.ต.ปิยะพันธ์กล่าวว่า การตรวจสอบยังไม่ปรากฏหลักฐานแบบนั้น ส่วนการเพิกถอนหนังสือเดินทางนั้น เป็นเรื่องระหว่างประเทศ ตำรวจมีอำนาจเพียงออกประกาศ สืบจับคนร้ายตามกฎหมายเท่านั้น

บิ๊กติ๊กยันพล.ต.ยื่นลาออกแล้ว

     ด้านพล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยพ.อ.คชาชาต หลังขาดราชการเกิน 7 วันว่า เป็นไปตามระเบียบราชการ เพราะตามระเบียบข้าราชการทหาร หากจะเดินทางออกนอกประเทศ ต้องทำหนังสือขออนุญาตถึงผู้บัญชาการเหล่าทัพ ต้นสังกัด และรมว.กลาโหมล่วงหน้า โดยยอมรับว่านายทหารยศพล.ต. เพื่อนสนิท ของพ.อ.คชาชาต ได้ทำหนังสือลาออกและ ส่งมาถึงกระทรวงกลาโหมตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย. และอยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงกลาโหม

    ขณะที่พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า สำหรับระเบียบการขาดราชการเกินกว่า 7 วัน ต้องดำเนินการสอบสวนทางวินัย หากขาดราชการเกิน 15 วัน หน่วยงานต้นสังกัดต้องพิจารณาเรื่องการออกจากราชการ แต่ต้องดูว่ากองทัพภาคที่ 3 พิจารณาในประเด็นใดว่าเป็นการขาดราชการ เพราะติดต่อไม่ได้หรือขาดราชการ เพราะหนีคดีอาญา

เซียนพระ"อ."เผ่นฮ่องกง

    สำหรับ การสืบสวนสอบสวนในโครงการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ รายงานข่าวแจ้งว่า การดำเนินการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์มีคณะกรรมการแต่ละส่วนมาบริหารจัดการ อันมีลักษณะเป็นนิติบุคคลภายใต้เป็นมูลนิธิ อุทยานราชภักดิ์ โดยมีพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และอดีตผบ.ทบ. เป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดสร้าง และเป็นประธานมูลนิธิโดยตำแหน่ง จากการตรวจสอบพบในส่วนของโรงหล่อที่รับดำเนินการหล่อพระบรมราชานุสาวรีย์บูรพกษัตริย์ทั้ง 7 พระองค์นั้น มีทั้งหมด 6 บริษัท โดยมีรายงานเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ทางคณะกรรมการมูลนิธิอุทยานราชภักดิ์ พบความผิดปกติ บางอย่างในส่วนของการจัดสร้างรูปปั้นบูรพกษัตริย์ทั้ง 7 พระองค์ จึงได้มีการสอบสวนเป็นการภายใน

    เบื้องต้นบริษัททั้งหมดได้ชี้แจงว่า การ เข้ามารับงานดังกล่าวได้รับการติดต่อผ่านเซียนพระ "อ." ชื่อดังคนหนึ่ง โดยมูลค่าการหล่อพระบรมราชานุสาวรีย์บูรพกษัตริย์ทั้ง 7 พระองค์ เป็นเงินกว่า 200 ล้านบาท ก่อนได้ตกลงส่วนแบ่งจำนวน 10 เปอร์เซ็นต์ เป็นเงินกว่า 20 ล้านบาท เพื่อเก็บเป็นค่านายหน้าหรือหัวคิว โดยได้พูดคุยกันในหน่วยงานราชการ แห่งหนึ่ง บริเวณถนนราชดำเนิน เมื่อ ประมาณเดือนต.ค.ที่ผ่านมา รวมทั้งได้เรียกเซียนพระคนดังกล่าวมาสอบถาม ก่อนที่เซียนพระจะนำเงินค่านายหน้ากว่า 20 ล้านบาท บริจาคผ่านมูลนิธิ ไปจนหมดแล้ว ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าเซียนพระคนดังกล่าวได้เดินทางออกนอกประเทศตั้งแต่วันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยเดินทางไปยังฮ่องกง ซึ่งคาดว่าน่าจะเดินทางออกนอกประเทศ หลังจากที่ปรากฏข่าวว่ามีนายทหารยศพล.ต.-พ.อ.เกี่ยวโยงกับนายสุริยัน

พล.ต.ยื่นออกตั้งแต่ 5 พย. 'บิ๊กติ๊ก'ยัน ตร.เล็งส่งฟ้อง 16 คดีหมิ่น เผยไม่เกี่ยว'ราชภักดิ์'ให้บิ๊กแป๊ะตรวจสำนวน บุกสอบ'อาท'ถึงคุกอีก ลั่นออก'หมายจับ'เพิ่ม

  • มติชนออนไลน์ :

     ตร.ยันสอบเพียงคดีหมิ่นเบื้องสูง ตาม ม.112 รวม 16 คดี คาดสัปดาห์หน้าสรุปสำนวน ชี้ยังไม่ขยายผลถึง"อุทยานราชภักดิ์" พนง.สอบสวนบุกเรือนจำสอบ"อาท"อีกรอบ

     ความคืบหน้าจับกุมนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ "หมอหยอง" นายจิรวงศ์ วัฒนเทวาศิลป์ หรืออาท เลขาฯหมอหยอง และ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือสารวัตรเอี๊ยด ผู้ต้องหาแอบอ้างเบื้องสูงเรียกรับผลประโยชน์ ตามกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยพบว่าร่วมกันกระทำความผิด 13 คดี โดย พ.ต.ต.ปรากรมเกิดความเครียดและผูกคอตายระหว่างถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำชั่วคราว แขวงถนนนครไชยศรี (พัน.ร.มทบ.11) และนายสุริยันเสียชีวิตจากการติดเชื้อในกระแสเลือด ขณะที่ศาลทหารออกหมายจับ พ.อ.คชาชาต บุญดี หรือเสธ.โจ้ นายทหารฝ่ายเสนาธิการ ประจำกองทัพภาคที่ 3 ฐานแอบอ้างเบื้องสูงเรียกรับผลประโยชน์นั้น

       เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ผบก.ปอศ.) ในฐานะรองโฆษก ตร. แถลงถึงการดำเนินคดีขบวนการแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงหาผลประโยชน์ ตามมาตรา 112 ว่า ขณะนี้การดำเนินคดีกับกลุ่มแอบอ้างสถาบันยังไม่ขยายผลไปถึงการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ดำเนินคดีเพียงกลุ่มของนายสุริยัน สุจริตพลวงศ์ หรือ "หมอหยอง" เท่านั้น ล่าสุดรับคดีเพิ่มมาอีก 3 สำนวนคดี รวมเป็น 16 คดีที่ต้องสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งเป็นคดีในกลุ่มแรกเช่นกัน 

      ผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องเรียก พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม อดีตผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และประธานมูลนิธิอุทยานราชภักดิ์ มาให้ข้อมูลหรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจยังไม่ได้รับการร้องทุกข์กล่าวโทษเกี่ยวกับการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์แต่อย่างใด หากมีผู้มาร้องทุกข์ก็ต้องตรวจสอบตามขั้นตอน คดีแบบนี้ต้องมีผู้เสียหายมาร้องทุกข์กล่าวโทษก่อน แต่ตอนนี้ยังไม่มี ถ้ากองทัพไม่ร้องทุกข์คดีก็จบไป

     "ในส่วนของ พ.อ.คชาชาต บุญดี หรือเสธ.โจ้ ขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ ใกล้เสร็จสิ้นแล้ว หากมีข้อมูลปรากฏต้องดำเนินการตามกฎหมายแน่นอน และหากพบผู้ต้องหาเพิ่มเติมก็ต้องสอบสวนขยายผล อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 12 พฤศจิกายน จะเป็นการเสนอสำนวนขึ้นไปที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) โดยพนักงานสอบสวนที่มี พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.รอง ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าชุด จะขอให้พนักงานสอบสวนชุดเดิมที่สอบสวนคดี มาตรา 112 สอบสวนใน 3 คดีที่ได้รับมาเพิ่มเติมเป็นคดีในกลุ่มเดียวกัน ขณะนี้กำลังสอบสวนเพิ่มเติมอยู่ ซึ่งยังมีผู้ต้องหาเพียง 4 คน เสียชีวิตไปแล้ว 2 คน ซึ่งใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว คาดว่าสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจน" พล.ต.ต.ปิยะพันธ์กล่าว 

     ส่วนความคืบหน้าการติดตาม พ.อ.คชาชาต ผู้ต้องหาตามมาตรา 112 และมาตรา 157 ประมวลกฎหมายอาญานั้นพล.ต.ต.ปิยะพันธ์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวอยู่ เชื่อว่าจะจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องมาได้ เพราะคดีใหญ่ๆ ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ก็สามารถจับผู้ต้องหาได้ แต่ตอนนี้ยังไม่ทราบว่า พ.อ.คชาชาตหนีไปที่ใด และไม่ทราบว่าเป็นไปตามกระแสข่าวว่าไปประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ ตอนนี้ส่งข้อมูลไปยังด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศให้ติดตามตัวแล้ว 

     ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก พ.อ.คชาชาตหนีไปประเทศที่ไม่มีความผิดมาตรา 112 โอกาสได้ตัวจะน้อยลงหรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์กล่าวว่า เรื่องแบบนี้เคยเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายเกี่ยวกับการประสานส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน สำหรับไทยกับพม่า มีเพียงคดีความมั่นคงบางเรื่อง แต่มาตรา 112 ไม่มี ขณะนี้ตำรวจได้ประสานงานกับทางการพม่าแล้ว แต่ยังไม่ยืนยันว่าผู้ต้องหาหนีไปพม่า ส่วนกระแสข่าวว่ามีบุคคลหน้าคล้าย พ.อ.คนหนึ่ง เดินทางออกไปที่ด่านแม่สอด จ.ตาก ก็ได้ตรวจสอบแล้วแต่ยังไม่ปรากฏหลักฐาน 

     เมื่อถามว่า หลักฐานการเดินทางออกนอกประเทศผ่านจุดตรวจสะพานมิตรภาพไทย-พม่า เมื่อเวลา 06.35 น. วันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมาของ พ.อ.คชาชาต เป็นของปลอมหรืออย่างไร พล.ต.ต.ปิยะพันธ์กล่าวว่า การตรวจสอบยังไม่ปรากฏหลักฐานแบบนั้น หากปลอมแปลงต้องให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ดำเนินการ แต่ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลปรากฏ ผู้ต้องหาคนใดก็ตามที่มีหมายจับจะเดินทางเข้าหรือออกจากประเทศต้องจับกุมอยู่แล้ว ส่วนการเพิกถอนหนังสือเดินทางนั้นเป็นเรื่องระหว่างประเทศ ตำรวจมีอำนาจเพียงออกประกาศสืบจับคนร้ายตามกฎหมายเท่านั้น เรื่องนั้นยังมาไม่ถึง

      ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวปฏิเสธไม่ทราบเรื่องเกี่ยวกับ พ.อ.คชาชาต เดินทางออกนอกประเทศ โดยใช้ด่านตรวจคนเข้าเมืองแม่สอด จ.ตาก เพราะยังไม่มีการลงรายละเอียดในส่วนของคดี อย่างไรก็ตาม ได้กำชับทุกด่าน ตั้งแต่เริ่มเกิดกรณีดังกล่าวให้เข้มงวดกวดขัน ถามว่าประเทศไทยกับประเทศพม่ามีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า "โห นี่คดีอะไรเนี่ย (หัวเราะ) เอาเป็นว่าเราได้คุยกันอยู่แล้ว" เมื่อถามว่า พล.อ.อุดมเดชให้สัมภาษณ์ว่าอุทยานราชภักดิ์โปร่งใสตรวจสอบได้ ขณะนี้ได้ประสานข้อมูลหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า พล.ต.ท.ศรีวราห์คงจะประสานไป

       รายงานข่าวแจ้งว่า พนักงานสอบสวนเตรียมออกหมายจับเพิ่มเติม ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อหาความเชื่อมโยงว่า 8 นายตำรวจที่ถูกสั่งให้ช่วยราชการที่ ศปก.บช.ก.มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการแอบอ้างหรือไม่ แต่ขณะนี้พยานหลักฐานยังโยงไปไม่ถึง ทั้งนี้ภายหลังจากศาลทหารได้ออกหมายจับ พ.อ.คชาชาต และนายจิรวงศ์ เพิ่มเติมตามมาตรา 112 และมาตรา 157 นั้น โดยเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้ไปที่เรือนจำชั่วคราว เพื่อแจ้งข้อกล่าวหากับนายจิรวงศ์ พร้อมทั้งสอบปากคำเพิ่มเติมในประเด็นที่สงสัย

     รายงานข่าวจากชุดสืบสวนแจ้งว่า จากการตรวจสอบการจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์บูรพกษัตริย์ทั้ง 7 พระองค์ จากโรงหล่อทั้ง 6 แห่ง เป็นเงินกว่า 200 ล้านบาท โดยมีเซียนพระ "อ" เป็นผู้ประสานงาน และมีการตกลงค่านายหน้าในหน่วยราชการแห่งหนึ่งเป็นเงิน 10% หรือเป็นเงินกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งต่อมาเซียนพระคนดังกล่าวนำเงินค่านายหน้าทั้งหมดบริจาคผ่านมูลนิธิ หลังจากนั้นเซียนพระได้เดินทางไปต่างประเทศ 

      ขณะที่ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการตั้งคณะกรรมการสอบวินัย พ.อ.คชาชาต หลังขาดราชการเกิน 7 วันว่า เป็นไปตามระเบียบราชการ เพราะตามระเบียบข้าราชการทหารหากจะเดินทางออกนอกประเทศ ต้องทำหนังสือขออนุญาตถึงผู้บัญชาการเหล่าทัพต้นสังกัด และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมล่วงหน้า ทั้งนี้ ยอมรับว่านายทหารยศ พล.ต.ที่เป็นเพื่อนสนิท พ.อ.คชาชาต ได้ทำหนังสือลาออกและส่งมาถึงกระทรวงกลาโหมตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายนแล้ว โดยกระบวนการนับจากนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงกลาโหม 

   ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า สำหรับระเบียบการขาดราชการเกินกว่า 7 วันจะต้องดำเนินการสอบสวนทางวินัย โดยหากขาดราชการเกิน 15 วันทางหน่วยงานต้นสังกัดจะต้องพิจารณาเรื่องการออก

    จากราชการ แต่ต้องดูว่ากองทัพภาคที่ 3 พิจารณาในประเด็นใดว่าเป็นการขาดราชการเพราะติดต่อไม่ได้หรือขาดราชการเพราะหนีคดีอาญา

    พ.ต.อ.จำลอง สุดใจ ผกก.สภ.แม่สอด จ.ตาก กล่าวว่า กรณีหมายจับ พ.อ.คชาชาต นายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำกองทัพภาคที่ 3 (ฝสธ.ทภ.3) ที่เดินทางไปประเทศพม่า เมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยผ่านด่านพรมแดนแม่สอด เมียวดี บ้านริมเมย ต.ท่าสายลวดนั้น สภ.แม่สอดยังไม่ได้รับหมายศาล และรับคำสั่งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หากเห็นหมายจับแล้วจะดำเนินการทันที แต่เรื่องดังกล่าวน่าจะเกี่ยวข้องกับตรวจคนเข้าเมือง จ.ตาก โดยตรง เพราะทราบว่าออกนอกประเทศไปแล้ว แต่เท่าที่ทราบการเดินทางออกนอกประเทศของ พ.อ.คชาชาตนั้น ออกนอกเมืองโดยถูกต้องตามกฎหมาย 

     รายงานข่าวแจ้งว่า ในพื้นที่เมียวดีมีทหารกะเหรี่ยงหลายกลุ่ม ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาแสดงตัวและแจ้งให้ทางฝ่ายไทยทราบ แม้ว่ามีการประสานทางลับไปแล้วก็ตาม

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!