WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

วันที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8580 ข่าวสดรายวัน


'บิ๊กอู๋'อำลาตำรวจ-ยันไม่เสียใจ '
วัชรพล'แจงย้าย ทั้ง 8 ผบช.


ปรับตร. - พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราช กิจ รักษาราชการแทนผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ถึงการโยกย้าย 8 ผบช.ว่าไม่ได้กลั่นแกล้ง พร้อมมอบหมายงานใหม่ให้รองผบ.ตร.-ผู้ช่วยผบ.ตร. เมื่อวันที่ 25 พ.ค.

     'บิ๊กอู๋' ร่อนจดหมายอำลาตร. หลังถูกคสช.สั่งย้ายออกจากตำแหน่งผบ.ตร. เผยยินดี-ไม่เสียใจ เตรียมพักร้อน-ขอบคุณเพื่อนตร.ให้ความร่วมมืออย่างดีใน 2 ปี บิ๊กตร.ทยอยเข้ารายงานตัว 'วัชรพล'แจงย้าย 8 ผบช.เพื่อให้เหมาะสมกับภารกิจ จ่อปฏิรูปตำรวจทั้งระบบ เล็งตั้งเป็นกระทรวง-มี 17 กรม เปลี่ยนชื่อเป็นกระทรวงการรักษาความปลอดภัยภายใน โดยมีรมต.ดูแล-ผบ.ตร.เป็นปลัดกระทรวง พร้อมแบ่งงานให้ 'บิ๊กย้อย'ดูแลบริหาร 'เอก'คุมปราบปราม 'บิ๊กอ๊อด'ดูแลปราบยา-มั่นคง ด้านบิ๊กแจ๊ดยันไม่ออก-อยู่ถึงเกษียณ
       จากกรณีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งให้พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร มาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้งให้พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รองผบ.ตร. รักษาราชการแทนผบ.ตร. ก่อนวันเดียวกันพล.ต.อ.วัชรพล มี คำสั่งโยกย้ายข้าราชการตำรวจให้มาปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) โดยขาดจากตำแหน่งเดิม ประกอบด้วย
        พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปประจ่าง ผบช.น. พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผบช.ภ.2 พล.ต.ท.อนุชัย เล็กบำรุง ผบช.ภ.4 พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภ.5 พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7 พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.สตม. และพล.ต.ท.สฤษฎชัย เอนกเวียง ผบช.ส. โดยให้รายงานตัวที่ศูนย์ปฏิบัติการ ตร. ภายในวันที่ 25 พ.ค.
     ขณะเดียวกัน ยังมีคำสั่งให้ข้าราชการตำรวจรักษาราชการแทน โดยให้พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วยผบ.ตร. รักษาราชการแทนผบช.น. พล.ต.ท.วันชัย ถนัดกิจ ผู้ช่วยผบ.ตร. รักษาราชการแทนผบช.ภ.5 พล.ต.ท.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ผบช.สำนักงบประมาณและการเงิน รักษาราชการแทนผบช.ภ.4 พล.ต.ท. สมบูรณ์ ฮวบบางยาง จเรตำรวจ รักษาราชการแทนผบช.ภ.7 พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี จเรตำรวจ (สบ7) รักษาราชการแทนผบช.สตม. พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบช.ก. รักษาราชการแทนผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ศานิตย์ มหถาวร รองผบช.ก.ตร. รักษาราชการแทนผบช.ภ.2 และ พล.ต.ต.เรวัช กลิ่นเกษร รองจเรตำรวจ รักษาราชการแทนผบช.ส. โดยให้ทุกนาย ยกเว้นพล.ต.ท.จักรทิพย์ ขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งเดิม 

วัชรพล ชี้เด้ง 8 ผบช.เพื่อให้เหมาะสม

     ความคืบหน้า เมื่อเวลา 09.10 น. วันที่ 25 พ.ค. ที่ตร. พล.ต.อ.วัชรพล เดินทางมาถึงตร.และกล่าวถึงกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.และหัวหน้าคสช. มีคำสั่งให้พล.ต.อ.อดุลย์ ไปปฏิบัติราชการที่สำนัก นายกฯ และตั้งพล.ต.อ.วัชรพล รักษาราชการผบ.ตร.ว่า คสช.ยังไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ ตำรวจมีหน้าที่สนับสนุนทหารในการดูแลความสงบเรียบร้อย ทำหน้าที่ตำรวจตามที่พล.ต.อ.อดุลย์ กำชับสั่งการไว้ ทุกอย่างเดินไปตามปกติ ตำรวจมีหน้าที่ดูแลประชาชนในพื้นที่และให้ความเป็นธรรม ทั้งนี้ได้คุยกับพล.ต.อ.อดุลย์แล้ว ตร.ก็สนับสนุนในงานฝ่ายกิจการพิเศษ คสช.ที่พล.ต.อ.อดุลย์ รองหัวหน้าคสช.กำกับอยู่ 
       เมื่อถามถึงกรณีมีคำสั่งโยกย้ายด่วน 8 ผบช.หน่วยหลัก พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า ในการปฏิบัติงานมีการสับเปลี่ยนกำลังกันบ้าง เพื่อให้เหมาะสมกับภารกิจที่เกี่ยวข้อง ทุกคนไม่ได้บกพร่องอะไร การย้ายเป็นการมาช่วยราชการชั่วคราว และปรับคนลงไปทดแทน

เผยคสช.ร่วมหารือโยกย้าย
      เมื่อถามว่า ตำรวจที่ถูกย้ายออก เพราะเป็นฝ่ายตรงข้ามคสช. หรือสนับสนุนรัฐบาลก่อนหน้านี้หรือไม่ จึงต้องโยกย้ายสับเปลี่ยน พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า คงไม่ใช่ ตำรวจทุกนายคือคนที่ต้องดูแลประชาชน แต่ในการปฏิบัติหน้าที่บางช่วงบางจังหวะอาจต้องการเน้นบางภารกิจ ในเรื่องความมั่นคง ความสามัคคี อาจต้องสับเปลี่ยนคน ตำรวจอยู่ที่ไหนก็เหมือนกัน เพราะเรารับเงินเดือนของประชาชน
       เมื่อถามอีกว่า การวางตัวผู้รักษาราชการแทนผบช.ต่างๆ มีการเลือกใช้ผู้ช่วยผบ.ตร.ไปจนถึงรองผบช.จากหน่วยอื่น พิจารณาจากอะไร พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า ต้องดูจากประสบการณ์หน้าที่ ความมุ่งมั่นหลายๆ เรื่อง เวลานี้เป็นภาวะพิเศษไม่ใช่ภาวะปกติ ต้องพิจารณาปัจจัยหลายด้าน
      เมื่อถามต่อว่า เป็นคนที่คสช.เลือกและตรวจสอบแล้วว่าผ่านใช่หรือไม่ รรท.ผบ.ตร. กล่าวว่า มีการหารือกัน พิจารณาความเหมาะสมตามภารกิจที่ต้องทำ ดูการปฏิบัติงานเป็นที่ตั้ง แม้แต่ตนก็มารับภารกิจในระยะเวลาอันสั้น แต่ต้องมุ่งมั่นทำงานเต็มที่ ประชาชนต้องช่วยสอดส่องดูด้วย

ชี้หากย้ายผบก.ต้องมีเหตุผล
      ผู้สื่อข่าวถามว่าจะกำชับอะไรพล.ต.ท. คำรณวิทย์ เป็นพิเศษหรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า คงไม่ เพราะเป็นข้าราชการผู้ใหญ่ และเดินทางมารายงานตัวแล้ว ตอนนี้หลายคนมารายงานตัวและต้องพูดคุยกัน ช่วยกันคิดเอาประสบการณ์แต่ละคนมาทำงาน ทำให้ดี ยืนยันไม่มีการกดดันให้พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ลาออก การสับเปลี่ยนหมุนเวียนเป็นปกติชีวิตราชการ จากนี้จะโยกย้ายระดับอื่นอีกหรือไม่ต้องทำงานกันก่อน รอให้หัวหน้าหน่วยหลักเข้าไปทำงาน ทำตามหน้าที่ตำรวจ แต่หากเห็นว่าผบก.นายใดควรโยกย้ายก็ต้องมีเหตุผล ต้องตอบสังคมและตอบประชาชนได้ 
       เมื่อถามว่า ตำรวจกำลังระส่ำระสาย จากการย้ายผบ.ตร.และผบช.หน่วยในสถานการณ์นี้ รรท.ผบ.ตร.กล่าวว่า ไม่มีหรอก ตำรวจมีหน้าที่ ทุกคนทราบดี ย้ำว่าเราเป็นตำรวจและสมัครใจเข้ามาเป็นตำรวจ หน้าที่เราคือพิทักษ์สันติราษฎร์ ดูแลประชาชน อำนวยความยุติธรรม ให้ความเป็นธรรม มีความสามัคคี ช่วงนี้เป็นช่วงที่เราต้องการความสามัคคี ไปดูแลความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินประชาชนให้เต็มที่ไม่ต้องห่วง ทำหน้าที่ในพื้นที่ตัวเองให้ดีที่สุด

บิ๊กแจ๊ด ยันไม่ออก-อยู่ถึงเกษียณ
       ถามว่าเป็นเพื่อนร่วมรุ่นนรต.กับพล.ต.อ. อดุลย์ เหตุการณ์นี้ขัดแย้งกันหรือไม่ พล.ต.อ. วัชรพล กล่าวว่า ตนกับพล.ต.อ.อดุลย์ เข้าใจกัน ไม่มีความขัดแย้ง ท่านยังเป็นผู้บังคับบัญชาของตนอยู่ เวลาจากนี้ตนจะทำให้ดีที่สุด สนับสนุนงานของพล.ต.อ.อดุลย์ ในคสช.อาจใช้โอกาสนี้ปรับแก้ระบบระเบียบ เพื่อให้ในอนาคตตำรวจมั่นใจในระบบคุณธรรม
      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 09.00 น. บรรดาผบช.ที่ถูกย้ายเข้ามาปฏิบัติราชการ ศูนย์ปฏิบัติการ ตร. ต่างทยอยเดินทางเข้ามารายงานตัวต่อพล.ต.อ.วัชรพล เช่นเดียวกับนายตำรวจที่มีคำสั่งให้รักษาราชการแทนก็เดินทางมารายงานตัวเช่นกัน ขณะที่พล.ต.อ.อดุลย์ ตั้งแต่ช่วงเช้ายังไม่เข้ามายังตร.แต่อย่างใด
       ด้านพล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวอย่างอารมณ์ดีหลังรายงานตัวกับพล.ต.อ.วัชรพลว่า ไม่คิดลาออก เพราะเหลือเวลาอีกเพียง 4 เดือนก็เกษียณอายุราชการแล้ว โดยยังคงปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะเกษียณอายุราชการ พร้อมยินดีปฏิบัติตามคำสั่งตร. จนกว่าจะหมดหน้าที่ในอีกไม่กี่เดือน อย่างไรก็ตามจากนี้คนที่หนักใจคือ ต้อย เมืองนนท์ เพราะจะไปส่องพระเครื่องแข่ง 

ถกแบ่งงาน-ปฏิรูปตำรวจ
      ต่อมาพล.ต.อ.วัชรพล เป็นประธานการประชุมมอบนโยบาย และมอบหมายหน้าที่การงานให้นายตำรวจระดับผู้ช่วยผบ.ตร.-รองผบ.ตร. โดยใช้เวลาหารือ 1 ช.ม. โดยพล.ต.อ. วัชรพลกล่าวภายหลังการประชุมว่า ในที่ประชุมเน้นย้ำเรื่องความสามัคคี เพราะขณะนี้ประเทศไทยต้องการความสามัคคี จึงกำชับให้ทุกคนมุ่งมั่นที่จะทำงานช่วยกันแก้ปัญหา โดยหลังจากนี้จะเดินหน้าปฏิรูปตำรวจ ตามที่สังคมคาดหวังที่จะเห็นระบบตำรวจมีการเปลี่ยนแปลง อยากให้กระจายอำนาจ ซึ่งหากต้องการกระจายอำนาจต้องเข้ามาหารือกันว่าจะนำเรื่องใดเสนอให้แก่รัฐบาล และผู้มีอำนาจในปัจจุบันได้ทราบ เพื่อให้ตำรวจก้าวไปสู่ความเป็นมืออาชีพได้ 
       เมื่อถามว่าคสช.ไฟเขียวให้คิดปฏิรูปตำรวจอย่างไร พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า เป็นสิ่งที่ตนคิดอยู่แล้ว แต่ต้องดูในช่วงที่ผ่านมาว่าเราเห็นสิ่งที่มวลชนต้องการ อยากเห็นการกระจาย อำนาจของตร. เมื่อมีโอกาสแล้ว สังคมก็คาดหวัง และเราก็ต้องคิดว่าอะไรคือสิ่งที่ถูกต้องที่สุด ต้องคิดถึงในเรื่องที่จะทำให้เรามีคุณภาพ และประสิทธิภาพที่สุด ทั้งนี้ในช่วง 4 เดือนที่เหลือจะทำให้เกิดเป็นรูปธรรมในหลายเรื่อง อย่างเช่นในการประชุมครั้งนี้ มีความเห็นที่ตรงกันว่าจะแบ่งชั้นสถานีตำรวจ ซึ่งจะทำให้ทิศทางเจริญเติบโตเป็นระบบมากขึ้น มีการประเมินผลงานในรอบ 6 เดือน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดเป็นรูปธรรม เพื่อให้ทุกคนเชื่อมั่นในระบบคุณธรรม 

จ่อตั้งเป็นกระทรวง-รมต.คุม
      เมื่อถามว่าการปฏิรูปตำรวจมีการเมืองเข้ามาอยู่ในการบริหารเหมือนเมื่อก่อนหรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า ในเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ต้องคิด ซึ่งข้อเรียกร้องคือ ต้องการให้ปลอดการเมือง โดยที่จริงแล้วการเมืองกับตำรวจมีเป้าหมายเรื่องเดียวกันคือ สังคมปลอดภัย ประชาชนมีความสงบสุข และมีรายได้พอเพียง แต่ถ้าประชาชนมั่นใจกติกาและมีเส้นทางชัดเจน เชื่อว่าการเมืองก็ไม่สามารถมาสั่งซ้ายหันหรือขวาหันได้ โดยเราต้องเปิดตัวของเราเอง และผู้บัญชาการระดับสูงต้องยอมสละอำนาจ สละดุลพินิจ เพื่อให้ผู้ใต้บังคับบัญชามั่นใจ เมื่อทำเรื่องดังกล่าวได้ทุกอย่างก็จะสำเร็จ
      เมื่อถามว่า อาจแก้พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 หรือไม่ พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า แน่นอน ต้องแก้ไขและอาจมีคณะกรรมการถึง 2 คณะ (ก.ตรและ ก.ต.ช.) นั้น อาจจะไม่มีความจำเป็น เพราะที่จริงแล้วมีเพียงคณะกรรมการเดียวก็ได้ แต่กลไกทางกฎหมายเป็นเรื่องที่ยาก ก็ต้องค่อยๆ ทำไป อย่างเช่นเรื่องที่ข้าราชการมียศและไม่มียศ ให้ฝ่ายอำนวยการไม่มียศ และเป็นการสร้างทัศนคติว่าทุกคนมีส่วนในการดูแลประชาชน และความสงบเรียบร้อยในสังคม 
       ขณะที่มีรายงานว่า ที่ประชุมพล.ต.อ. วัชรพลพูดถึงการปฏิรูปตำรวจ ที่ต้องทำให้แล้วเสร็จในช่วง 4 เดือน โดยมีแนวคิดให้ตร.เปลี่ยนเป็นกระทรวง และมี 17 กรมในสังกัด ผบ.ตร.เป็นปลัดกระทรวง ชื่อเรียกกระทรวงการรักษาความปลอดภัยภายใน มีรัฐมนตรีดูแล โดยเตรียมโครงสร้างนี้ไว้แล้ว บางส่วนทำไว้ตั้งแต่สมัยพล.ต.อ.อดุลย์ โดยครั้งนี้จะใช้จังหวะที่ประเทศปกครองบริหารโดยคสช.ผลักดันให้สำเร็จ 

ให้ 'บิ๊กย้อย'ดูแลงานบริหาร
      สำหรับรายละเอียดการแบ่งงานของข้าราชการตำรวจระดับรองผบ.ตร.-ผู้ช่วยผบ.ตร. ประกอบด้วย งานบริหาร 1 พล.ต.อ. วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผบ.ตร. พล.ต.ท.นเรศ เทียนกริม ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.สุพร พันธุ์เสือ ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.ชัยยง กีรติขจร ผู้ช่วยผบ.ตร. กำกับดูแลสำนักงานส่งกำลังบำรุง (สกบ.) สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (สทส.) และกองวินัย
       งานบริหาร 2 พล.ต.อ.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์ ที่ปรึกษา (สบ10) พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก พล.ต.ท.อุดม ชัยมงคลรัตน์ พล.ต.ท.อำนาจ อันอาตม์งาม พล.ต.ท.ชัยยง ผู้ช่วยผบ.ตร. กำกับดูแลสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ (สยศ.ตร.) สำนักงานกำลังพล สำนักงบประมาณและการเงิน(สงป.) ร.พ.ตำรวจ ยกเว้นสถาบันนิติเวชวิทยา (นต.) สำนักงานเลขานุการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองการต่างประเทศ กองสารนิเทศ กองบินตำรวจ และโรงพิมพ์ตำรวจ 
       งานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง รองผบ.ตร. พล.ต.อ.ชนินทร์ ปรีชาหาญ ที่ปรึกษา (สบ10) พล.ต.ท.สันติ เพ็ญสูตร พล.ต.ท.อุดม พล.ต.ท.อำนาจ พล.ต.ท.ชัยยง พล.ต.ท.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ และพล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้ช่วยผบ.ตร. กำกับดูแล บช.น. ยกเว้นบก.จร. กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (อคฝ.) บช.ภ.1-9 ยกเว้นศูนย์ฝึกอบรมภาค 1-8 บช.ก. ยกเว้นบก.ทล. บก.ทท. และสยศ.ตร. เฉพาะผอ.

'บิ๊กอ๊อด'คุมปราบยา-งานมั่นคง
      งานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร. พล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษา (สบ10) พล.ต.ท.วินัย กำกับดูแล บช.ปส.
      งานมั่นคง 1 พล.ต.อ.สมยศ พล.ต.ท. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท. อำนาจ กำกับดูแลบช.ส. บช.ตชด. ยกเว้นกองบังคับการฝึกพิเศษ (กฝ.) และสยศ.ตร. ยกเว้นกลุ่มงานกิจการพิเศษ 
       งานมั่นคง 2 พล.ต.อ.รชต พล.ต.ท.สุพร และพล.ต.ท.อารีย์ อ่อนชิต ผู้ช่วยผบ.ตร. กำกับดูแลสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจเฉพาะกลุ่มงานกิจการพิเศษ งานถวายความปลอดภัย และโครงการพระราชดำริ 
      งานมั่นคง 3 พล.ต.อ.วุฒิ พล.ต.อ.อุดม รักศิลธรรม ที่ปรึกษา (สบ10) พล.ต.ท. เรืองศักดิ์ และพล.ต.ท.สันติ กำกับดูแลสตม. บช.น.เฉพาะบก.จร. บช.ก. เฉพาะบก.ทล. บก.ทท. และตท.ยกเว้นการลา 
      งานศึกษาอบรม พล.ต.อ.อุดม พล.ต.ท. เรืองศักดิ์ พล.ต.ท.อารีย์ และพล.ต.ท.ม.ล.พันธุ์ศักดิ์ กำกับดูแลโรงเรียนนายร้อยตำรวจ กองบัญชาการศึกษา ภ.1-8 เฉพาะศฝร.ภ.1-8 และตชด.เฉพาะ กฝ.

'บิ๊กอวบ'ยังคุมงานจเร
      งานกฎหมาย 1 พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ รองผบ.ตร. พล.ต.ท.ม.ล.พันธ์ศักดิ์ กำกับดูแลสำนักงานส่งเสริมการสอบสวน (สบส.) และศูนย์พิทักษ์เด็ก เยาวชนและสตรี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (พดส.ตร.)
      งานกฎหมาย 2 พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา (สบ10) พล.ต.ท.อุดม พล.ต.ท. ก่อเกียรติ กำกับดูแลสำนักงานกฎหมายและคดี ยกเว้นสบส. สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.ตร.) และสถาบันนิติเวชวิทยา
     ศูนย์ปฏิบัติการตร. พล.ต.อ.วัชรพล พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร. พล.ต.อ.พีระ พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ พล.ต.ท.นเรศ พล.ต.ท.อำนาจ และพล.ต.ท.วินัย 
     งานจเรตำรวจ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน จตช. พล.ต.ท.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน พล.ต.ท.ชัยยะ ศิริอำพันกุล รองจตช. กำกับดูแลสำนักงานจเรตำรวจ ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) พล.ต.อ. พีระ และพล.ต.ท.อำนาจ กำกับดูแลศชต.และศูนย์ปฏิบัติการ ตร. ส่วนหน้า สำนักงานนายตำรวจราชสำนักประจำ (นรป.) พล.ต.อ. ไตรรัตน์ อมาตยกุล หน.นรป. (สบ10) และพล.ต.ท.เจษฎา อินทรสถิตย์ รองหน.นรป. (สบ9)

'อดุลย์'ร่อนจดหมายอำลา
      วันเดียวกัน พล.ต.อ.อดุลย์ส่งเอกสารอำลาผู้ใต้บังคับบัญชา หลังถูกคสช. สั่งย้ายออกจากตำแหน่ง โดยมีเนื้อหาว่า เรียนพี่เพื่อนน้องตำรวจที่รักทุกท่าน ผมคงไม่มีโอกาสได้พบทุกท่านหรืออำลาหน่วยที่ผมรักได้อีก เพราะคำสั่งให้ขาดจากสังกัดวันนี้ พรุ่งนี้ต้องเดินทางไปรายงานตัว 09.00 น. ผมยินดีและไม่เสียใจ เพราะได้ทำอะไรเพื่อหน่วยเพื่อส่วนรวมมามากแล้ว ฝากเรื่องเดียวครับช่วยกันรักษาสิ่งดีๆ ของหน่วยไว้ให้นานเท่าที่จะทำมันได้นะครับ
      ผมจะลาพักร้อนและงดใช้โทรศัพท์ชั่วคราว ทุกท่านมีเรื่องใดที่เกี่ยวข้องกับผม ขอให้ติดต่อนายตำรวจติดตามครับ ขอบคุณมากครับสำหรับไมตรีและความร่วมมือที่มีให้กันมาอย่างดีโดยตลอดเกือบสองปี จากผบ.ตร.ครับ

ยกเลิกเด้งผู้การเชียงใหม่ 
      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 25 พ.ค. พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 3 และผอ.รมน.ภาค 3 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 3 ลงนามในหนังสือด่วนที่สุด ที่กห 0483/129 ถึงผบช.ภ.5 เรื่องขอให้นายตำรวจสัญญาบัตรมาปฏิบัติราชการ มีเนื้อหาระบุว่ากองทัพภาคที่ 3 มีข้อมูลที่น่าเชื่อถือว่าพล.ต.ต.กริช กิติลือ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ มีพฤติการณ์ให้การสนับสนุนและอำนวยความสะดวกนายพานทองแท้ ชินวัตร หนึ่งในแกนนำกลุ่มนปช. อันเป็นการกระทำที่ขัดต่อภารกิจรักษาความสงบเรียบร้อยและนโยบายของผอ.รักษาความสงบเรียบร้อย 
      จึงขอความอนุเคราะห์ดำเนินการให้พล.ต.ต.กริชมาช่วยราชการเพื่อปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักงานผบช.ภ.5 ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และพ.ต.อ.มนตรี สัมบุณณานนท์ รองผบก.อก.บช.ภ.5 รักษาราชการแทน
       ต่อมามีคำสั่งบช.ภ.5 ที่ 159/2557 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการ เพื่อให้การปฏิบัติราชการของบช.ภ.5 ในการสนับสนุนภารกิจของคสช.เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ จึงให้พล.ต.ต.กริช กิติลือ ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ไปปฏิบัติราชการที่สำนักงานผบช.ภ.5 โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม และมีคำสั่งบช.ภ.5 ที่ 160/2557 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการแทน ตามที่มีคำสั่งบช.ภ.5 ที่ 159/2557 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการ จึงให้พ.ต.อ.มนตรี สัมบุณณานนท์ รองผบก.อก.บช.ภ.5 รักษาราชการแทน 
       แต่จากนั้นไม่นานบช.ภ.5 มีคำสั่งที่ 161/2557 เรื่องยกเลิกให้ข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติราชการและรักษาราชการแทน ตามที่บช.ภ.มีคำสั่งที่ 159/2557 และ 159/2557 แต่ด้วยมีเหตุขัดข้องบางประการ จึงให้ยกเลิก คำสั่งดังกล่าว ลงนามโดยพล.ต.ท.วันชัย ถนัดกิจ ผู้ช่วยผบ.ตร. รักษาราชการแทนผบช.ภ.5

'วินธัย'แจงโยกย้ายขรก.-ตร.
        ขณะที่พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวชี้แจงถึงคำสั่งการปรับโยกย้ายข้าราชการพลเรือน ตำรวจและทหารว่า เรื่องนี้พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันว่าการปรับย้ายการปฏิบัติหน้าที่ของพลเรือน ตำรวจและทหารนั้น ไม่ได้เป็นการลดทอนในเกียรติยศศักดิ์ศรีของบุคคลหรือหน่วยงานใด แต่จำเป็นต้องลดความกดดันที่มีต่อกลุ่มบุคคลดังกล่าว สำหรับตำแหน่งผบ.ตร.ผู้ที่จะมารักษาการแทนก็มาจากรองผบ.ตร. ซึ่งมีลำดับอาวุโสอันดับ 1 และทั้งหมดก็เพื่อให้เกิดความไว้วางใจจากสังคมและประชาชน 
        "อยากให้เห็นใจผู้ที่ถูกปรับย้ายการปฏิบัติหน้าที่ และงดที่จะแสดงออกถึงการดูถูกเกลียดชังกัน เพราะท่านเหล่านั้นไม่ได้มีความผิดใดๆ ขอให้ถือเป็นการปรับย้าย เพื่อให้เกิดความเหมาะสมต่อสถานการณ์ในห้วงปัจจุบัน อยากฝากให้ทุกคนได้ให้ความร่วมมือกับผู้ที่มารักษาการแทนด้วย" พ.อ.วินธัยกล่าว

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!