WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

วันที่ 03 มิถุนายน พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8588 ข่าวสดรายวัน


เด้งตร.อีก 4 ผบก.-รณพงษ์ 
บี้จับล็อตใหญ่ อาวุธสงคราม '10 นักวิชาการ'ชี้แจงบิ๊กทหาร ปล่อยน้องอ๋อย

      ย้าย 4 ผบก. 'ภูเก็ต-อุบลฯ-ร้อยเอ็ด-ระยอง'พล.ต.ต.รณพงษ์ด้วย คสช.มอบกระทรวงต่างประเทศแจงนานาชาติค้านรัฐประหาร ทีมโฆษกคสช. เผยจับผู้ต่อต้าน 6 คน สน.ลุมพินีแจงคลิป อุ้มยาย รับเป็นตร.ฝ่ายสืบสวน 'สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง' ยันการชุมนุมทุกรูปแบบผิดกฎอัยการศึก เผยต้องปิดถนนเพื่อลดเผชิญหน้า นักวิชาการเชียงใหม่รุดแสดงตัว หลังทหารใส่ชื่อในบัญชี-ส่งคนตาม ผบ.มทบ.33 แจง แค่เฝ้าระวัง 

'บิ๊กตู่'ประชุมทีมคสช.

      เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 2 มิ.ย. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เชิญรองหัวหน้า คสช. ประกอบด้วยพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. และพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ปฏิบัติหน้าที่สำนักนายกฯ รวมถึงพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รอง ผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการ คสช. รวมทั้งคณะที่ปรึกษาคสช.ทั้ง 10 คน เข้าร่วมประชุม 

วินธัยเผยจับผู้ต่อต้านแล้ว 6 คน

      จากนั้นเวลา 13.45 น. ที่หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ พ.อ.วินธัย สุวารี พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค และพ.อ.ณัฐวัฒน์ จันทร์เจริญ ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ร่วมกันแถลงถึงกรณียังคงมีกลุ่มมวลชนออกมาต่อต้านคสช.ว่า ยังคงเน้นสร้างความเข้าใจถึงสถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่ปกติ ซึ่งการสร้างความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง ถือเป็นเรื่องสำคัญเพราะจะส่งผลต่อการเดินหน้างานด้านต่างๆ ถ้ายังมีความขัดแย้งอยู่ จะทำให้การขับเคลื่อนไม่เป็นไปตามแผนและล่าช้า สำหรับมาตรการควบคุมยังใช้รูปแบบเดิม เน้นบังคับใช้กฎหมาย และหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง แต่ถ้าจำเป็นก็จะต้องใช้ 

       พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ส่วนที่นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง จ.ปทุมธานี และนายสมบัติ บุญงามอนงค์ บ.ก.ลายจุด ยังหลบเลี่ยงอยู่นั้น เจ้าหน้าที่พยายามติดตามควบคุมตัว สำหรับยอดจับกุมกลุ่มที่ต่อต้านคสช. ทั้งหมดมีอยู่ 6 คน จะพิจารณาจากฐานความผิดของแต่ละบุคคล บางคนอาจแค่ตักเตือนและปล่อยตัว แต่ถ้ารุนแรงจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมคือขึ้นศาลทหารเพราะก่อให้เกิดผลกระทบด้านความมั่นคง เพราะฝ่าฝืน ส่วนที่ผู้เห็นต่างแสดงสัญลักษณ์ชู 3 นิ้วนั้น ต้องดูองค์ประกอบหลายอย่างทั้งนัยยะ ท่าที ถึงจะเข้าไปควบคุมดำเนินการต่อไป

มอบ"กต."ชี้แจงต่างประเทศ

      ด้านพ.อ.วีรชนกล่าวว่า ส่วนการทำความเข้าใจกับต่างประเทศ ทางหัวหน้า คสช.มอบให้หน่วยงานด้านความมั่นคงไปประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อชี้แจงสร้างความเข้าใจเพิ่มเติม ซึ่งอาจต้องใช้เวลา ทั้งนี้การต่อต้านรัฐประหารของไทยต่อจากนี้เราจะได้ยินตลอด จนกว่าจะมีการเลือกตั้ง ด้วยเหตุผลและหลักการของประเทศนั้นๆ หรือประเทศมหาอำนาจ เราทำได้เพียงการทำความเข้าใจชี้แจงเหตุผล และข้อเท็จจริงจนกว่าเขาจะเปลี่ยนท่าที ซึ่งต่างประเทศก็เข้าใจและเห็นใจ เพียงแต่วิธีการปฏิบัติอาจไม่ถูกต้องในหลักการของต่างประเทศ 

       พ.อ.วีรชน กล่าวว่า การเคลื่อนไหวจากต่างประเทศจะออกมาในรูปแบบคำแถลงการณ์หรือเอกสารซึ่งมีมาอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นค่านิยมของประเทศเหล่านั้นซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเป็นกระแสกดดันจากภายนอกประเทศเข้ามาในประเทศ ทั้งนี้หัวหน้าคสช. มอบให้ทุกส่วนราชการที่ต้องติดต่อกับต่างประเทศ ตั้งแต่สภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม เอ็นจีโอ ไม่ใช่เฉพาะกระทรวงการต่างประเทศ ให้ใช้เครือข่ายที่มีอยู่สร้างความเข้าใจ ชี้แจงเหตุผลที่ คสช.ต้องเข้ามาดูแลประเทศ รวมถึงอธิบายให้เห็นถึงความคืบหน้าการทำงานของคสช. จะทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศดีขึ้นในสายตาของคนที่จับจ้องประเทศไทยอยู่ และประชาชนทุกคนต้องช่วยกัน ซึ่งหัวหน้าคสช.มีกำลังใจในการทำงาน เพราะได้รับความร่วมมือจากข้าราชการทุกภาคส่วน และการทำงานก็เป็นไปตามเป้าหมายที่ได้วางไว้

ส่ง 6 ผู้คัดค้านดำเนินคดีแล้ว

       ที่กองปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวผู้ต้องหาที่ประท้วงการยึดอำนาจของคสช. ตามพ.ร.บ.ฝ่าฝืนกฎอัยการศึก รวมทั้งหมด 6 รายมาควบคุมตัวที่กองปราบปราม ประกอบด้วย น.ส.วาริน ทินกร อายุ 71 ปี ที่ใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปากพิมพ์ว่า "People" น.ส.นุชรา สุขแสวงบุญ อายุ 48 ปี น.ส.สุนันทา พ่วงศิริ อายุ 50 ปี นายมงคล แสงสุดา อายุ 43 ปี น.ส.จิราพร วราพิศิษฐ์ อายุ 53 ปี และ นายสุเมศ วิโรจน์ชัยยันต์ อายุ 40 ปี โดยควบคุมตัวทั้งหมดได้ที่แยกราชประสงค์ แยกอโศก และหน้าห้างสรรพสินค้าฟอร์จูนทาวน์ 

      ทั้งนี้ ผู้ถูกจับกุมทั้งหมดนั้นทางเจ้าหน้าที่ทหารได้สอบปากคำจนเสร็จสิ้นและส่งให้พนักงานสอบสวน กองปราบปราม สอบประวัติและลงบันทึกประจำวันไว้ โดยยังไม่แจ้งข้อหา ซึ่งในส่วนการดำเนิคดีเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทหาร หากพบผู้ถูกจับกุมรายไหนมีพฤติกรรมรุนแรง ต่อสู้ขัดขวางทหารก็จะแจ้งความดำเนินคดี ส่วนรายไหนต่อต้านด้วยความสงบก็จะขังไว้ 7 วันแล้วปล่อยตัวต่อไป อย่างไรก็ตามตั้งแต่วันที่ประกาศกฎอัยการศึก ทางเจ้าหน้าที่ทหารได้จับกุมตัวผู้ต่อต้าน คสช.มาฝากขังที่กองปราบปรามแล้ว 25 ราย ปล่อยตัวไปแล้ว 16 ราย

สน.ลุมพินีแจงคลิปจับผู้ชุมนุม

      จากกรณีที่มีคลิปภาพเหตุการณ์เผยแพร่อยู่ในโลกโซเชี่ยลมีเดีย ซึ่งในภาพปรากฏชายฉกรรจ์จำนวน 2 คน กำลังฉุดกระชาก ผู้หญิงวัยประมาณ 50 ปี ที่กระทำการต่อต้านรัฐประหาร จากนั้นได้นำตัวขึ้นรถแท็กซี่ หมายเลขทะเบียน 422 โดยไม่ทราบหมวดอักษร เหตุเกิดบริเวณด้านหน้าห้างไทม์สแควร์ ถ.สุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตทวีวัฒนา กทม. เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. ของวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา 

        ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 2 มิ.ย. พ.ต.อ.ไชยา คงทรัพย์ ผกก.สน.ลุมพินี เปิดเผยว่า จากกระแสข่าวที่ระบุว่า ชายฉกรรจ์ดังกล่าว เป็นทหารนอกเครื่องแบบนั้นได้กระทำการฉุดกระชากหญิงสาววัยประมาณ 50 ปี ก่อนนำตัวขึ้นรถแท็กซี่ไป เบื้องต้นได้นำคลิปภาพมาตรวจสอบปรากฏว่า เป็น เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนของสน.ลุมพินี จากนั้นได้ควบคุมตัวมายังที่สน. ซึ่งไม่ได้ลงบันทึกประจำวันแต่อย่างใด และไม่ทราบชื่อ กระทั่งมีเจ้าหน้าที่ทหารมาควบคุมตัวไปเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยไม่ทราบสถานที่

'เรืองไกร-ประภัสร์'รายงานตัว

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการรายงานตัวของบุคคลที่ถูกเรียกตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 42 และ 43 ในวันที่ 2 มิ.ย. จำนวน 10 คน ปรากฏว่ามีบุคคลมารายงานตัวทั้งสิ้น 8 คน ประกอบด้วย น.ส.การิน ประจันทร์ แนวร่วมกลุ่มนปช. ซึ่งเป็นคนแรกที่เดินทางมาถึง นายบัญญัติ เย็นใจเฉื่อย แกนนำชมรมรักประชาธิปไตยแหลมฉบัง จ.ชลบุรี นายคารม พลพรกลาง ทนายความกลุ่ม นปช. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตส.ว.สรรหา พ.ต.อ.นริศ แสวงจิตร ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายปฏิบัติการ 4 กอ.รมน. นายสิทธิชัย กิตติธเนศวร ผู้ช่วยรมต.มหาดไทย นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศ นายจักรพันธุ์ ยมจินดา รองประธานกรรมการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และนายบัญญัติ เย็นใจเฉื่อย ขณะที่นางหน่อย แดงเป้า แนวร่วมนปช. และนายณรงค์ศักดิ์ พลอร่าม แนวร่วมนปช. ไม่ได้มารายงานตัวแต่อย่างใด 

      นายเรืองไกร ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้ารายงานตัวว่า ไม่กังวลและพร้อมให้ความร่วมมือ เมื่อเข้ารายงานตัวตนจะเสนอแนวคิดเรื่องสภาปรองดองและสภาปฏิรูปว่าควรทำอย่างไร การตรวจสอบทรัพย์สินนักการเมืองควรทำอย่างไร ซึ่งตนเน้นว่าใครที่เข้ามาบริหารบ้านเมืองต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ หวังว่าเรื่องนี้จะได้รับความเห็นชอบจากคสช. และอยากให้คณะคสช. และที่ปรึกษาคสช.ทั้ง 10 คน เป็นต้นแบบชี้แจงตรวจสอบทรัพย์สินก่อนจะกำหนดให้บุคคลอื่นทำตาม ส่วนหัวหน้าคสช.จะเห็นด้วยหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ 

ปล่อยน้องสาวอ๋อยแล้ว

       นางฐิติมา ฉายแสง น้องสาวของนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรมว.ศึกษาธิการ ที่เข้ารายงานตัวเมื่อวันที่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมา กล่าวภายหลังได้รับการปล่อยตัวว่า ตนเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ถูกควบคุมอยู่ที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นเวลา 7 วัน และได้รับการปล่อยตัวมาพร้อมนายเกรียงกมล เลาหไพโรจน์ ระหว่างที่ถูกคุมตัวก็ได้รับการดูแลตามอัตภาพและทันทีที่เจ้าหน้าที่มาส่งที่หอประชุมกองทัพบก ตนได้ไปเยี่ยมนายจาตุรนต์ทันทีและพูดคุยว่าไม่ต้องห่วงเพราะปลอดภัยดี ซึ่งนาย จาตุรนต์ยังมีกำลังใจดีและไม่ได้กำชับอะไรกับตนเป็นพิเศษ

        ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายวิม รุ่งวัฒนะจินดา อดีตเลขานุการรมต.ประจำสำนักนายกฯ ได้รับการปล่อยตัวแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.

เผยเมียเข้าเยี่ยมจาตุรนต์

       ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ นายสรสิทธิ์ จงเจริญ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ว่า นางจิราภรณ์ ฉายแสง ภรรยาของนายจาตุรนต์ได้เดินทางติดต่อขอเยี่ยมนายจาตุรนต์ โดยใช้เวลาพูดคุยประมาณ 30 นาที ก่อนเดินทางกลับ ทั้งนี้ ทราบว่านายจาตุรนต์ได้ขอร้องให้ทางเรือนจำดำเนินการเกี่ยวกับด้านทันตกรรม เนื่องจากนายจาตุรนต์เพิ่งทำฟันและจะต้องครอบฟันที่ไม่เสร็จ จึงได้ให้นายจาตุรนต์ทำหนังสือร้องขอความจำเป็นกรณีดังกล่าว จากนั้นจะประสานไปยังทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งมีทันตแพทย์ให้บริการ เข้ามาตรวจหรือดำเนินการในขั้นตอนที่เหลือให้เรียบร้อย 

        นายสรสิทธิ์ยังกล่าวว่า สำหรับชีวิตประจำวันของนายจาตุรนต์ในเรือนจำยังคงปฏิบัติเหมือนผู้ต้องขังตามปกติมีการฝึกนั่งสมาธิ อ่านหนังสือ ออกกำลังกาย ทั้งนี้ผู้ต้องขังหลายคนในเรือนจำจดจำนายจาตุรนต์ได้ แต่ไม่ได้เข้าไปวุ่นวายอะไร บางคนเข้าไปทักทายสวัสดี ตอนนี้ยังไม่ได้เข้าสู่การจำแนกแยกแดนต้องรอให้ครบ 2 สัปดาห์ อาหารการกินญาติได้ซื้อของเรือนจำ และนำมาฝากให้ 

'สมยศ'ถกกรอบป้องชุมนุมต้าน

       ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วยผบ.ตร. รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.ชยุต ธนทวีรัชต์ พล.ต.ต.วรัญวัส การุณยธัช พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ พล.ต.ต. อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ พล.ต.ต.ฉันทวิทย์ รามสูต พล.ต.ต.สำเริง สุวรรณพงษ์ รองผบช.น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.ศ. ช่วยราชการรองผบช.น. และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมเพื่องานด้านความมั่นคง ประเมินสถานการณ์ดูแลรักษาความปลอดภัยและวางกรอบการปฏิบัติหน้าที่บริเวณจุดที่มีการชุมนุมต่อต้านรัฐประหาร โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที

      พล.ต.อ.สมยศ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า วันนี้ได้เชิญผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องดูแล บช.น. และข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมในหลายวันที่ผ่านมา เพื่อประเมินผลการชุมนุม และวางแผนการปฏิบัติในวันต่อๆ ไป เพื่อให้สอดคล้องและรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และคาดว่าจะเกิดขึ้นจากนี้ต่อไป โดยช่วงเวลาที่ผ่านมาได้มีการวางกรอบ วางแผนไว้ แต่สถานการณ์บางครั้งเปลี่ยนไป จึงต้องวางแผนนโยบายในการปฏิบัติในวันต่อๆ ไป โดยแนวนโยบายคือ เริ่มจากการประเมินสถานการณ์ ทหารมีฝ่ายข่าว ตำรวจก็มีฝ่ายข่าว นำมาประเมินร่วมกัน ก่อนกำหนดยุทธวิธี โดยผู้กำหนดยุทธวิธีคือ ทหาร เป็น ผบ.เหตุการณ์ ตำรวจเป็นผู้ให้การสนับสนุน

แจงปิดถนนเพื่อลดเผชิญหน้า

        พล.ต.อ.สมยศ กล่าวถึงการปิดถนนว่า ถือว่ามีความจำเป็นที่ต้องทำเช่นนั้น เพราะหัวหน้าคณะ คสช. ต้องการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียเกิดขึ้น ทั้งฝ่ายผู้ชุมนุม หรือทหาร ตำรวจ เราไม่มีความต้องการไปปิดถนน เพราะทำให้ประชาชนเดือดร้อน แต่ที่เราต้องปิดถนนหรือบล็อกพื้นที่ก่อนนั้น เพราะไม่ต้องการให้ผู้ชุมนุมได้ใช้พื้นที่ เพราะรู้ดีว่าเมื่อ ผู้ชุมนุมเข้าไปแล้วเราเข้าไปทีหลังมันสุ่มเสี่ยงต่อการเผชิญหน้า อาจทำให้สูญเสียทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ต้องการให้มีเกิดเหตุเช่นนั้นเกิดขึ้น

        "ในกรณีที่มีการชุมนุมเกิดขึ้นถือว่าผู้ชุมนุมฝ่าฝืนประกาศ คสช. ฝ่าฝืนกฎอัยการศึก เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย เพราะฉะนั้นผู้ชุมนุมที่มาแสดงสัญลักษณ์ใดๆ เกิดขึ้น เราต้องทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย ต้องจับกุม ส่วนวิธีการจับกุม เป็นยุทธวิธีที่ทหารหรือตำรวจต้องปฏิบัติร่วมกัน ส่วนการจับกุมในภายหลังถือเป็นยุทธวิธีเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า ฝากบอกว่าผู้ที่มาชุมนุมนั้น เราจะถ่ายรูปท่านไว้ แล้วขออนุมัติศาลเพื่อออกหมายจับ และจะดำเนินการติดตามภายหลัง ในข้อหาฝ่าฝืนประกาศของ คสช. และขัดคำสั่งกฎอัยการศึก ส่วนจะไปจับที่ไหน เมื่อใด เป็นเรื่องที่ผู้ปฏิบัติเป็นผู้ดำเนินการเอง" รอง ผบ.ตร.กล่าว

ลั่นการชุมนุมผิดกฎอัยการศึก

      เมื่อถามว่า หากผู้ชุมนุมต่อต้านไปยืนปกติแล้วชูสัญลักษณ์ เช่น ชู 3 นิ้ว จะถือว่ามีความผิดหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า การชุมนุมตามรัฐธรรมนูญเดิมที่ถูกพักใช้ ขณะนี้ประเทศไทยใช้กฎหมายกฎอัยการศึก การชุมนุมตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป จึงถือว่าเป็นความผิด ไม่ว่าท่านจะชูนิ้วเฉยๆ ก็ถือว่าเป็นความผิด ไม่ว่าจะมาด้วยความบริสุทธิ์ใจ มาเพราะอุดมการณ์ หรือถูกชักชวน หรือถูกจ้าง ถือว่ามีความผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีประกาศคณะ คสช. ฉบับที่ 49 ออกมาว่า ใครก็ตามที่ให้ใช้สถานที่ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ห้างสรรพสินค้า โรงแรมหรือสถานที่ใดๆ กับผู้ชุมนุม จะมีความผิดกับประกาศ คสช. ฉบับที่ 49 ในฐานะ ผู้สนับสนุน

       เมื่อถามว่า กลุ่มต่อต้าน คสช. มีปริมาณมากหรือน้อยเพียงใด พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า หากดูจากปริมาณที่เห็นเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่ห้างเทอร์มินอล 21 กลุ่มผู้ชุมนุมมีประมาณ 20 คน แต่คนดูหรือคนที่สัญจรไปมามีเยอะมาก รวมถึงผู้สื่อข่าวก็เยอะมากจริงๆ ส่วนกรณีที่ห้างเทอร์มินอล 21 ปิดนั้น ตนเห็นว่าสถานการณ์อาจลุกลามบานปลาย จึงได้คุยผู้บริหารห้างว่าควรจะปิดหรือไม่ ทางห้างก็ยินดีที่จะปิดตัวลงชั่วคราว ตนเชื่อว่าการชุมนุมมีที่มาที่ไปแน่ อย่างที่เทอร์มินอล 21 ก็มีแจกน้ำ แจกขนมกัน 

กลุ่มต้านนัดขอบคุณ'ออสเตรเลีย'

       รายงานข่าวแจ้งว่า วันที่ 4 มิ.ย. เวลา 16.30-18.00 น. กลุ่มผู้ต้านรัฐประหาร จะนำจดหมายขอบคุณรัฐบาลออสเตรเลียและดอกไม้ ไปวางหน้าสถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย ถ.สาทรใต้ เพื่อขอบคุณกรณีรัฐบาลออสเตรเลีย แสดงท่าทีแบนรัฐบาลเผด็จการทหารไทยที่ไม่ได้มาตามระบอบประชาธิปไตยด้วยการไม่ให้เดินทางเข้าออสเตรเลีย รวมถึงจะยกเลิกปฏิบัติร่วมทางทหารทั้งหมด และเรียกร้องให้ทหารคืนประชาธิปไตย เลิกละเมิดสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้มีเงื่อนไขว่าให้ต่างคนต่างเตรียมดอกไม้และจดหมายขอบคุณไปเนื่องจากเป็นกิจกรรมที่ไม่มีแกนนำ งดการตะโกน ส่งเสียงปราศรัยไปจนถึงการถือกระดาษ ป้าย สัญลักษณ์ต่างๆ โดยจะมาแสดงความขอบคุณและเดินทางกลับทันที 

       "หากในวันนั้นมีทหารมาปิดกั้นหน้าสถานทูต ให้หลีกเลี่ยงการปะทะ แล้วค่อยนำจดหมายและดอกไม้มาให้ในวันต่อมาหรือส่งทางไปรษณีย์ หรืออีเมล์แทน" รายงานข่าวระบุ 

จารุพงศ์ชวนหนุนม็อบค้านรปห.

       วันเดียวกัน นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ปฏิเสธเข้ารายงานตัวต่อคสช.ตามประกาศคำสั่ง ได้โพสต์ภาพกระดาษบันทึกเขียนข้อความด้วยลายมือผ่านเฟซบุ๊ก ลงวันที่ 2 มิ.ย.ว่า จากการที่คสช.ทำรัฐประหาร นำประเทศเข้าสู่ยุคมืดเป็นรัฐทหาร จนถูกประณามและต่อต้านจากประชาชน ผู้รักประชาธิปไตยและสังคมโลก ตนขอยืนยันไม่ยอมรับอำนาจที่มิได้มาจากประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยและยังถือว่าพรรคเพื่อไทยดำรงอยู่โดยชอบธรรม 

      "ขอเรียกร้องต่อสมาชิกผู้สนับสนุนส.ส. และผู้สมัครพรรคเพื่อไทยทุกคน พิจารณาให้การสนับสนุนและเข้าร่วมต่อสู้กับประชาชนผู้รักษาชาติ รักประชาธิปไตยที่ดำเนินการอย่างกล้าหาญและชาญฉลาดอยู่เวลานี้ ตามเงื่อนไขและความเหมาะสมของแต่ละคน โดยใช้หลักการ ใช้ปัญญา เหตุผล ความยุติธรรมเสมอภาค เสรีภาพ ประชาธิปไตย เคารพหลักการแห่งสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นพลังอันศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่มีอำนาจใดจะโค่นล้มได้ ขอให้มวลสมาชิกพรรค และผู้สนับสนุนทุกคนยึดมั่นในหลักการนี้เพื่อนำประเทศหลุดพ้นอุ้งมือเผด็จการ" นายจารุพงศ์ระบุ 

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในอินเตอร์เน็ตมีการแชร์ภาพของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง ลูกสาวคนเล็กของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ถ่ายภาพเป็นรูปของหน้าตัวเองและชูนิ้วขึ้นมา 3 นิ้วเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์สื่อถึงเสรีภาพ อิสรภาพ และสันติภาพ เพื่อต่อต้านรัฐประหาร

นักวิชาการรุดถกถูกทหารตาม

      ที่จ.เชียงใหม่ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่รวมทั้งนักวิชาการอิสระรวมกว่า 10 คน เดินทางเข้าพบ พล.ต.สุทัศน์ จารุมณี ผบ.กองพลทหารราบที่ 7 และพล.ต.ศรายุธ รังษี ผบ.มณฑลทหารบกที่ 33 ที่ค่ายกาวิละ เพื่อขอคำชี้แจงหลังจากพบว่า มีรายชื่อของนักวิชาการหลายคนปรากฏอยู่ในบัญชีเฝ้าจับตาของทหาร ทำให้หลายคนเกิดความไม่สบายใจ และเกรงว่าอาจถูกคสช.เรียกไปรายงานตัว

        รายงานแจ้งว่านักวิชาการที่เข้าพบทหารครั้งนี้มีหลายคน อาทิ นายสมชาย ปรีชาศิลปกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ ม.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน, น.ส.ปิ่นแก้ว เหลืองอร่ามศรี จากคณะสังคมศาสตร์ ม.เชียงใหม่, นายเก่งกิจ กิติเรียงลาภ จากคณะสังคมศาสตร์ ม.เชียงใหม่ รวมทั้ง นายไชยันต์ รัชชกูล นักวิชาการอิสระ

ผบ.มทบ. 33 แจงแค่เฝ้าระวัง

        นายอานันท์ กาญจนพันธ์ นักวิชาการอิสระ กล่าวว่า มีนักวิชาการหลายคนถูก เจ้าหน้าที่ติดตามความเคลื่อนไหวและปรากฏรายชื่อในบัญชีเฝ้าจับตาของทหาร เท่าที่ตรวจสอบรายชื่อมีกว่า 10 คน ที่เป็นนักวิชาการของม.เชียงใหม่และนักวิชาการอิสระ ซึ่งทุกคนก็ไม่ได้ออกมาเคลื่อนไหวอะไรมากนัก มีเพียงออกมาแสดงความเห็นในฐานะนักวิชาการในกรอบกฎหมาย การเดินทางเข้าพบในครั้งนี้ เพื่อขอให้มีการตรวจสอบความถูกต้องของรายชื่อเพื่อคลายความกังวล

        พล.ต.ศรายุธ เปิดเผยหลังพบกับกลุ่มนักวิชาการว่า นักวิชาการหลายคนมีรายชื่ออยู่ในบัญชีเฝ้าระวังจริง ซึ่งทางทหารได้รวบรวมเป้าหมายไว้หลายกลุ่มไม่เพียงแต่กลุ่มนักวิชาการที่จะต้องเรียกมาคุย ซึ่งครั้งนี้ก็ได้ขอความร่วมือไม่ให้มีความเคลื่อนไหวที่แสดงถึงการยุยงปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกหรือความวุ่นวาย หากไม่มีตรงนี้ทุกคนก็สบายใจได้ และหลังจากเข้าพบพูดคุยกันแล้วทหารก็จะไม่ติดตามอีก เว้นแต่จะมีความเคลื่อนไหวอีก ส่วนความกังวลในเรื่องของควมปลอดภัยที่ทำให้กลุ่มนักวิชาการเข้าพบ ก็เป็นเรื่องปกติของผู้ที่ตกเป็นเป้าหมายก็ต้องรู้สึกเป็นธรรมดา

ขอนแก่น-โคราชจัดเวทีสลายสี

     ที่บริเวณสนามโรงเรียนบ้านเหล่านกชุม หมู่ 4 ต.ดอนหัน อ.เมือง จ.ขอนแก่น พล.ต. ภัทรพล รักษนคร ผบ.มทบ.23 ในฐานะกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นายวิวัฒ เมธีวรรณกิจ รอง ผวจ.ขอนแก่น พล.ต.ท.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รรท.ผบช.ภ.4 ร่วมกันเป็นประธานสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยการดำเนินงานของนายสุทิพย์ ดิสโร นายก อบต.ดอนหัน โดยจัดกิจกรรมบันเทิง เน้นความรัก ความสามัคคี ร้องเพลง เต้นรำ การละเล่น ตรวจสุขภาพของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ร.พ.ค่ายศรีพัชรินทร จ.ขอนแก่น และอำเภอเมืองขอนแก่นบริการตัดผมฟรีให้กับประชาชนใน ต.ดอนหัน ที่ในอดีตถูกเรียกเป็นตำบลเสื้อแดง

    ที่ห้องรับรองกองทัพน้อยที่ 2 ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา พล.ตไชยพร รัตนแพทย์ รองแม่ทัพน้อยที่ 2 ฐานะประธานศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ เพื่อการปฏิรูป เชิญแกนนำกลุ่มการเมืองในพื้นที่ทั้งเสื้อแดง และเสื้อเหลือง มาร่วมกิจกรรมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยให้นั่งกินกาแฟพร้อมเปิดโอกาสให้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งแกนนำทั้ง 2 กลุ่มให้ความร่วมมือ และแสดงออกด้วยความจริงใจด้วยการจับมือ เพื่อให้เกิดภาพความปรองดอง จากนั้นทั้งหมดเดินทางมากราบพร้อมสาบานตนกับท้าวสุรนารี (ย่าโม) ว่า จะไม่สร้างปัญหาความขัดแย้ง ตามข้อตกลงของ คสช. 

อุดรฯ กำชับห้ามข่มขู่ทวงหนี้

        นายศักดิ์ศรี ว่องไว ผอ.สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (ผอ.กสทช.) เขต 7 นครราชสีมา พร้อมทหารและตำรวจ นำหมายศาลจังหวัดนครราชสีมา เลขที่ 108/2557 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 98 ถ.เดชอุดม ซอย 22 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นที่ตั้งสถานีวิทยุชุมชน "พลังแผ่นดิน" FM104.50 MHZ ที่มีพฤติการณ์ละเมิดคำสั่งคสช. ที่ให้ระงับการออกอากาศ โดยขณะเข้าตรวจค้นไม่มีคนอยู่จึงยึดอุปกรณ์ส่งเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามกฎหมาย 

       ที่ห้องประชุมฉัตรไพฑูรย์ กก.ภ.จว.อุดร ธานี พ.ต.อ.สุรินทร์ ชัยชมภู รองผบก.ภ.จว.อุดรธานี เรียกกลุ่มปล่อยเงินกู้นอกระบบมาชี้แจงและทำความเข้าใจ ในเรื่องคำสั่งประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ไม่ให้ไป ข่มขู่ ทวงหนี้กับชาวนาและ ผู้มีรายได้น้อย มิเช่นนั้นจะถูกดำเนินคดีขึ้นศาลทหารอย่างเดียว โดยในวันนี้มีกลุ่มปล่อยเงินกู้นอกระบบ 30 คน เข้ารับฟัง พร้อมทั้ง ทำประวัติทุกคนที่มา และให้เซ็นรับทราบ คำสั่งของคสช. ว่า ถ้าฝ่าฝืนต้องถูกดำเนินคดีโดยศาลทหาร

ตร.ย้ายอีก-ผู้การ'อุบล-ภูเก็ต'

       เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รักษาราชการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงนามคำสั่งที่ 268/2557 ลงวันที่ 2 มิ.ย. ให้ พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (รองผบช.ภ.8) ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเดิม เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามที่ผบ.ตร.มอบหมาย จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง โดยให้ไปรายงานตัวที่ ศปก.ตร.ภายในวันที่ 3 มิ.ย. เวลา 16.00 น. ทั้งนี้คำสั่งดังกล่าวเพื่อให้การปฏิบัติราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการสนับสนุนภารกิจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ

      รายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก ผบช.ประจำสง.ผบ.ตร.ในฐานะรักษาราชการ แทนผบช.ภ.3 ได้ลงนามคำสั่งให้พล.ต.ต.อภิชาติ เพชรประสิทธิ์ ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี ไปปฏิบัติราชการที่บช.ภ.3 จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง และให้พล.ต.ต.สุรพล แก้วขาว รองผบช.ภ3 ไปรักษาราชการแทนในตำแหน่งผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี ทั้งนี้ได้ให้เหตุผลในการปรับย้ายครั้งนี้เพื่อความเหมาะสมในพื้นที่ 

      รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.8 มีคำสั่งให้พล.ต.ต.องอาจ ผิวเรืองนนท์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ไปปฏิบัติ งานที่บช.ภ.8 จ.สุราษฎร์ธานี จนกว่าจะมี คำสั่งเปลี่ยนแปลงและให้พล.ต.ต.กระจ่าง สุวรรณรัตน์ รอง ผบช.ภ.8 ไปรักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต

       นอกจากนี้บช.ภ.2 ยังมีคำสั่งให้พล.ต.ต. สมนึก บุรมิ ผบก.ภ.จว.ระยอง มาปฏิบัติราชการที่บช.ภ.2 รวมทั้งบช.ภ.4 มีคำสั่งให้พล.ต.ต.ณรงค์วิทย์ พ่วงเภตรา ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด มาปฏิบัติราชการที่บช.ภ.4 เช่นกัน โดยทั้ง 2 ตำแหน่งให้รองผบช.ภาคแต่ละพื้นที่รักษาราชการแทน

ขอนแก่นจับปืน 407 กระบอก

      ที่ลานฝึกพรหมพิทักษ์ บช.ภ.4 จ.ขอนแก่น นายวิวัฒ เมธีวรรณกิจ รอง ผวจ.ขอนแก่น พล.ต.ศักดา เปรุนาวิน ผบ.พล.ร.3 พล.ต.ท. เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รรท.ผบช.ภ.4 ร่วมแถลงข่าวผลระดมกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 4 ตั้งแต่วันที่วันที่ 28 พ.ค. -1 มิ.ย. ใน 12 จังหวัดภาคอีสานตอนบน โดยมีของกลางอาวุธปืน 407 กระบอก กระสุน 1,028 นัด วัตถุระเบิด 7 ลูก ยาบ้า 20,000 เม็ด นอกจากนี้มีรถ จยย. 10 คัน อะไหล่รถ จยย.ส่วนหนึ่ง รถยนต์เก๋ง 5 คัน รถยนต์ปิกอัพ 4 คัน ซึ่งในช่วงการระดมกวาดล้างสามารถจับกุมการกระทำผิดได้ 2,701 ราย ผู้ต้องหา 3,413 คน

     ที่สภ.เมืองชัยภูมิ พล.ต.มารุต ลิ้มเจริญ ผบ.กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 (ผบ.บชร.2) รับผิดชอบ กกส.รส.จว.ชัยภูมิ พร้อมด้วยพล.ต.ต.พินิต มณีรัตน์ ผบก.ภจว.ชัยภูมิ แถลงผลการกวาดล้างจับกุมอาวุธสงคราม ในช่วงประกาศกฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักรว่าได้รับแจ้งจากนายก อบต.ศรีสำราญ พบตู้เซฟวางทิ้งไว้บริเวณที่ดินหลังบ้านประชาชน หมู่ที่ 3 บ้านนามน ต.ศรีสำราญ อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ จึงไปตรวจสอบ ในตู้เซฟพบกระสุนปืนชนิดต่างๆ และเอกสารจำนวนมาก ประกอบด้วย กระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 25 นัด, กระสุนปืน ขนาด 11 ม.ม. 64 นัด, กระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. 30 นัด, ซองปืนพกนอกซ้าย 1 ซอง, ซองกระสุนปืน ขนาด 11 ม.ม. 3 ซอง, โทรศัพท์โนเกีย 1 เครื่อง, โทรศัพท์ไอโฟน 1 เครื่อง ขณะนี้กำลังตรวจพิสูจน์ว่าเป็นของผู้ใด

ชลบุรีพบอาร์พีจี-ระเบิดอื้อ

        ที่ จ.ชลบุรี เมื่อเวลา 07.00 น. พล.ต.ต. ธเนศร์ พิณเมืองงาม รองผบช.ภ.3 รักษาการผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.อ.คม วิริยะเวชกุล ผบ.ศูนย์ฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มทบ.14 พร้อมเจ้าหน้าที่ร่วมตรวจสอบภายในป่ากล้วยรกร้าง ขนาดประมาณ 30 ตารางวา ใกล้โรงเรียนบ้านสวนอุดมวิทยา หมู่ 3 ต.บ้านสวน อ.เมือง จังหวัดชลบุรี หลังได้รับแจ้งว่าพบจรวดอาร์พีจีซุกซ่อนอยู่ จากการตรวจสอบพบจรวดอาร์พีจี 27 ลูก กองอยู่ข้างกล่องบรรจุระเบิดลูกเกลี้ยงแบบสังหารอีก 5 กล่อง รวม 150 ลูก พร้อมใช้งานได้

       พล.ต.ณัฐ อินทรเจริฐ ผบ.มทบ.14 กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่า วัตถุระเบิดดังกล่าวมาจากตามแนวชายแดน ซึ่ง ผู้ครอบครองกลัวความผิดตามประกาศของ คสช. จึงนำออกมาทิ้ง และขอฝากไปถึงผู้ที่ยังครอบครองวัตถุระเบิดที่ยังมีอยู่ ขอให้นำออกมาส่งให้กับเจ้าหน้าที่โดยด่วนต่อไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำวัตถุระเบิดทั้งหมดเข้าไปตรวจสอบอีกครั้ง โดยเบื้องต้นจะนำไปเก็บรักษาเอาไว้ที่ มทบ.14 ก่อน

คดีเขาสมิงออกหมายจับแล้ว 8 คน

       พ.ต.อ.สุรพงษ์ ถนอมจิตร รองผบก.ภ.จว.นนทบุรี รรก. ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี ร่วมกับ พ.ท.รังสิดลย์ คำมณี รองเสธ. ปตอ. 1 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ตรวจสอบหลังรับแจ้งพบกระสุนปืนจำนวนหลายสิบนัดอยู่ในท่อระบายน้ำคอนโดฯ แห่งหนึ่ง ภายในซอยสามัคคี ต.ท่าทราย จากการตรวจสอบพบเป็นกระสุนปืนขนาด 11 ม.ม. 30 นัด กระสุนปืนเอชเค 1 นัด ทั้งหมดมีสนิมเกาะ คาดว่าเจ้าของคงกลัวความผิดในช่วงที่มีการใช้กฎอัยการศึก เลยนำมาทิ้งท่อระบายน้ำ

       ที่ จ.ตราด พ.ต.อ.จีระวุฒิ ตัณฑะศรี ผกก.เขาสมิง จ.ตราด เปิดเผยความคืบหน้าคดีปาบึ้ม กลุ่มกปปส.ตราด ที่ตลาดยิ่งเจริญ อ.เขาสมิง ว่า สภ.เขาสมิงสามารถออกหมายจับเพิ่มได้อีก รวมทั้งหมด 8 คน ในข้อหาร่วมกันฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ซึ่งประกอบด้วยนายณรงค์ กระจ่างกลาง ที่ได้ออกหมายจับใบที่ 2 ไปก่อนหน้านี้, นายนวม อำไพ, นายวัชระ กระจ่างกลาง, นายบุญจิต สุดคำภา, น.ส.จันทนา วรากรสกุลกิจ, นายสมศักดิ์ พูลสวัสดิ์, นายวิโรจน์ กระจ่างกลาง และนายจักรพงษ์ กระจ่างกลาง

สงขลาจับปืนเอ็ม 16

     ที่ จ.สงขลา พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผบก.ภ.จว.สงขลา เปิดเผยว่า รับแจ้งว่าที่บ้านเลขที่ 124 หมู่ 1 อ.สิงหนคร จ.สงขลา มีการลักลอบนำอาวุธสงครามมาเก็บไว้ จึงประสานไปยังตำรวจและทหารในพื้นที่เข้าตรวจค้น พบปืนเอ็ม16 1 กระบอก พร้อมกระสุน 73 นัด ปืน 9 ม.ม. 1 กระบอก พร้อมกระสุน 28 นัด ลูกระเบิด เอ็ม26 อีก 1 ลูก นอกจากนั้นยังพบตะปูเรือใบและหมวกไอ้โม่งอีก 1 ใบ พร้อมยาบ้าอีก 2 เม็ด จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง พร้อมควบคุมตัว นายอรุณ ศรีมณี อายุ 29 ปี และนายอดิลก ศรีมณี อายุ 30 ปี ที่อยู่ในบ้าน ตรวจสอบประวัติพบว่า นายอรุณเคยต้องคดีปล้นที่ จ.สตูล และพ้นโทษมาแล้ว และมีหมายจับในข้อหาครอบครองยาเสพติดของ สภ.ป่าบอน จ.พัทลุง 1 คดี ส่วนนายอดิลกต้องคดีอาวุธปืนอยู่ระหว่างการดำเนินคดีของศาล จ.สงขลา และต้องคดีครอบครองยาเสพติดเมื่อปี"54

ศาลเลื่อนไต่สวน'กปปส.'ฟ้องรบ. 

        เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 2 มิ.ย. ที่ห้องพิจารณา 803 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องคดีผู้เสียชีวิตจากเหตุสลายการชุมนุม กปปส. ที่แยกผ่านฟ้า เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ในคดีหมายเลขดำ อ.583-584/2557 ที่นางขิ้ม รัตนคช มารดานายธนูศักดิ์ รัตนคช และนางอารียา บุญรุ่ง ภรรยานายสุพจน์ บุญรุ่ง สองผู้เสียชีวิต เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรีและผู้ปฏิบัติตามลำดับชั้นรวม 6 ราย ในความผิดฐานร่วมกันก่อหรือใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบมาตรา 83 และ 84 เนื่องจากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ มีแก๊สน้ำตา อาวุธปืนสั้น ปืนลูกซอง ระเบิด และปืนสงคราม มีกระสุนจริงและกระสุนซ้อมเป็นอาวุธประจำกาย ซึ่งการใช้อาวุธและยกกำลังเข้าสลายการชุมนุมไม่เป็นไปตามหลักสากลและแนวทางปฏิบัติในการควบคุมฝูงชนและปราบจลาจลที่ถูกต้อง 

      แต่เมื่อถึงเวลานัดปรากฏ มีการแจ้งว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว อดีต ผบ.ตร. จำเลยที่ 3 ยังไม่ได้รับหมายศาล จึงยังไม่มีการแต่งตั้งทนาย ศาลจึงนัดไต่สวนมูลฟ้องอีกครั้งในวันที่ 15 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น.

       ด้านนายชัยวัฒน์ สิทธิสุขสกุล ทนายความของญาติผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ในการไต่สวนนั้นฝ่ายโจทก์ เตรียมพยานในชั้นนี้ไว้ 3 ปาก ประกอบด้วยญาติผู้เสียชีวิตและผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ส่วนคดีที่ญาติผู้เสียชีวิตอีก 2 สำนวน ยื่นฟ้องชุดแรกเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมานั้น คือคดีหมายเลขดำ อ.451/2557 น.ส.อุมาพร อ่างทอง มารดาของนายจีรพงษ์ ฉุยฉาย ผู้ตาย และคดีหมายเลขดำ อ.452/82557 ที่นางจงจิต แซ่ด่าน ภรรยาของนายศรัทธา แซ่ด่าน ผู้ตายจากเหตุสลายการชุมนุมที่แยกผ่านฟ้าช่วงเดียวกัน ศาลได้ไต่สวนมูลฟ้องไปแล้ว 1 นัด และนัดไต่สวนพยานอีกครั้งในวันที่ 18 ส.ค.นี้

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!